ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: แรงซื้อหุ้นแบงก์,เหมืองแร่ หนุนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก

ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (1 ก.ย.) โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มเหมืองแร่ที่ดีดตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับรายงานที่บ่งชี้ถึงภาวะหดตัวของภาคการผลิตในสหรัฐ

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้นเกือบ 0.1% ปิดที่ 343.66 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,439.67 จุด เพิ่มขึ้น 1.45 จุด หรือ +0.03% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,534.31 จุด ลดลง 58.38 จุด หรือ -0.55% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,745.97 จุด ลดลง 35.54 จุด หรือ -0.52%

ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยหุ้นคอมเมิร์ซแบงก์ พุ่งขึ้น 2.2% ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 2 วันทำการ หลังจากมีรายงานว่า คอมเมิร์ซแบงก์ทำข้อตกลงควบรวมกิจการกับดอยช์ แบงก์

ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นเช่นกัน หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เดือนส.ค.ขยายตัวที่ระดับ 50.4 เพิ่มขึ้นจากเดือนก.ค.ที่ระดับ 49.9 และสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 49.8

ทั้งนี้ หุ้น Imersys SA บริษัทเหมืองแร่รายใหญ่ของฝรั่งเศส พุ่งขึ้น 2.4% และหุ้นโบลิเดน บริษัทเหมืองของสวีเดน ปรับตัวขึ้น 0.3%

อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับรายงานที่บ่งชี้ถึงภาวะหดตัวของภาคการผลิตในสหรัฐ

ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของ ISM อยู่ที่ระดับ 49.4 ในเดือนส.ค. ลดลงจากระดับ 52.6 ในเดือนก.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 52.2

ดัชนี PMI ที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ถึงภาวะหดตัวของภาคการผลิต และดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 50 จะบ่งชี้ภาวะขยายตัว