ตลาดหุ้นนิวยอร์กพลิกร่วงแดนลบในวันนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขภาคบริการของสหรัฐที่มีการขยายตัวต่ำที่สุดในรอบกว่า 6 ปี ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ
ณ เวลา 22.07 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 18,472.03 จุด ลดลง 19.93 จุด หรือ 0.11% หลังจากดีดตัวขึ้นในการซื้อขายช่วงแรก
ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) พบว่า ภาคบริการของสหรัฐมีการขยายตัวต่ำที่สุดในรอบกว่า 6 ปีในเดือนส.ค.
ทั้งนี้ ดัชนีภาคบริการของ ISM อยู่ที่ระดับ 51.4 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2010 และลดลงจากระดับ 55.5 ในเดือนก.ค. รวมทั้งร่วงลงต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
คำสั่งซื้อใหม่, การจ้างงาน และคำสั่งส่งออกต่างก็ปรับตัวลงในเดือนส.ค.
อย่างไรก็ดี ดัชนียังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะขยายตัวเป็นเวลา 79 เดือนติดต่อกัน
นอกจากนี้ การปรับตัวลงของราคาน้ำมัน ก็เป็นปัจจัยถ่วงตลาดในวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI อ่อนตัวลงในวันนี้ โดยถูกกดดันจากการที่นักลงทุนลดคาดการณ์การบรรลุข้อตกลงของประเทศผู้ผลิตน้ำมัน
ณ เวลา 19.50 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนต.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ร่วงลง 11 เซนต์ หรือ 0.25% สู่ระดับ 44.33 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นเมื่อวานนี้ รับข่าวซาอุดิอาระเบียและรัสเซียได้จับมือกันรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมัน
อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันปรับตัวลงในวันนี้ หลังจากที่นายคาหลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.น้ำมันซาอุดิอาระเบีย กล่าวว่า ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องจำกัดการผลิตในขณะนี้
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปิดทำการวานนี้ เนื่องในวันแรงงานสหรัฐ
หากดัชนีดาวโจนส์สามารถปิดตลาดในแดนบวกวันนี้ ก็จะเป็นการดีดตัวขึ้นเป็นวันทำการที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งจะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปลายเดือนก.ค.