ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (6 ก.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวลดลงของสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งผลให้หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลดลง
ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลง 53.37 จุด หรือ 0.78% แตะที่ 6,826.05 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลงหลังจากที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 37 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 47.26 ดอลลาร์/บาร์เรล
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ที่พบว่า ภาคบริการของสหรัฐมีการขยายตัวต่ำที่สุดในรอบกว่า 6 ปีในเดือนส.ค.
ทั้งนี้ ดัชนีภาคบริการของ ISM อยู่ที่ระดับ 51.4 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2010 และลดลงจากระดับ 55.5 ในเดือนก.ค. รวมทั้งร่วงลงต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ข้อมูลดังกล่าวกระตุ้นความวิตกกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของโลก
หุ้นกลุ่มพลังงานนำโดยหุ้นบีพีและหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ต่างก็ปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันดิบเบรนท์
หุ้นเบิร์กลีย์ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ เพิ่มขึ้น 3.5% หลังจากที่บริษัทคงคาดการณ์กำไรก่อนหักภาษีในช่วงอีก 3 ปีข้างหน้า