ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงดิ่งลงอย่างต่อเนื่องในวันนี้ โดยล่าสุดทรุดตัวลงกว่า 200 จุด จากความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเดือนนี้ และการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
ณ เวลา 22.44 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (DJIA) อยู่ที่ 18,276.27 จุด ลดลง 203.64 จุด หรือ 1.10% โดยปรับตัวลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน
ดัชนีดาวโจนส์ทำสถิติทรุดตัวลงมากที่สุดในวันนี้ นับตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย. และเป็นการร่วงลงมากกว่า 100 จุดเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค.
หุ้นทั้ง 30 ตัวที่ใช้คำนวณดัชนี DJIA ต่างปรับตัวลงในวันนี้
นายเอริค โรเซนเกรน ประธานเฟด สาขาบอสตัน กล่าวเตือนในวันนี้ว่า เฟดเผชิญความเสี่ยงมากขึ้น หากชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปนานเกินไป ดังนั้นการใช้นโยบายคุมเข้มอย่างค่อยเป็นค่อยไปจึงมีความเหมาะสม
นายโรเซนเกรนระบุว่า ขณะนี้เฟดเผชิญความเสี่ยงใน 2 ด้าน โดยด้านหนึ่งคือการชะลอตัวของเศรษฐกิจในต่างประเทศ ขณะเดียวกัน เฟดก็เผชิญความเสี่ยงจากการที่เศรษฐกิจสหรัฐอาจร้อนแรงเกินไป หากเฟดคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเป็นเวลานานเกินไป
นายโรเซนเกรนยังกล่าวว่า "หากเราต้องการมีการจ้างงานเต็มศักยภาพ การคุมเข้มนโยบายอย่างค่อยเป็นค่อยไปจึงเป็นเรื่องที่เหมาะสม เพื่อปรับนโยบายการเงินเข้าสู่ภาวะปกติ"
ประธานเฟดบอสตันไม่ได้ระบุว่าเขาคาดหวังให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นปีหรือไม่ แต่ถ้อยแถลงของเขาสอดคล้องกับสิ่งที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า ปัจจัยที่สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยกำลังมีน้ำหนักมากขึ้น
CME Group FedWatch ระบุว่า นักลงทุนได้เพิ่มคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมเดือนนี้ หลังคำกล่าวของนายโรเซนเกรน
ทั้งนี้ นักลงทุนเพิ่มความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.สู่ระดับ 24% จากเดิมที่ 18%
เกาหลีเหนือได้ออกมาประกาศความสำเร็จในการทดลองนิวเคลียร์ครั้งที่ 5 ในวันนี้ โดยการทดสอบครั้งนี้มีขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 68 ปีแห่งการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (DPRK)
นอกจากนี้ การดิ่งลงของราคาน้ำมัน ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันตลาดในวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดิ่งลงกว่า 2% ในวันนี้จากแรงขายทำกำไร หลังราคาพุ่งขึ้นอย่างมากเมื่อคืนนี้ จากข้อมูลสต็อกน้ำมันสหรัฐที่ลดลงมากเกินคาด
ณ เวลา 23.03 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนต.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 1.19 ดอลลาร์ หรือ 2.50% สู่ระดับ 46.43 ดอลลาร์/บาร์เรล