แรงขายถล่มดาวโจนส์วูบต่อเนื่อง ทรุดกว่า 300 จุด ผวาเฟดขึ้นดบ. 20-21 ก.ย.

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday September 10, 2016 01:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงดิ่งลงอย่างหนักในวันนี้ โดยล่าสุดดัชนีดาวโจนส์ทรุดตัวลงกว่า 300 จุด จากความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ

ณ เวลา 01.06 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (DJIA) อยู่ที่ 18,168.71 จุด ดิ่งลง 311.20 จุด หรือ 1.68% โดยปรับตัวลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน

ดัชนีดาวโจนส์ทำสถิติทรุดตัวลงมากที่สุดในวันนี้ นับตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย. และเป็นการร่วงลงมากกว่า 100 จุดเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค.

หุ้นทั้ง 30 ตัวที่ใช้คำนวณดัชนี DJIA ต่างปรับตัวลงในวันนี้ ขณะที่หุ้น 3M และหุ้นโบอิ้งฉุดตลาดลงมากที่สุด

นายเอริค โรเซนเกรน ประธานเฟด สาขาบอสตัน กล่าวเตือนในวันนี้ว่า เฟดเผชิญความเสี่ยงมากขึ้น หากชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปนานเกินไป ดังนั้นการใช้นโยบายคุมเข้มอย่างค่อยเป็นค่อยไปจึงมีความเหมาะสม

นายโรเซนเกรนระบุว่า ขณะนี้เฟดเผชิญความเสี่ยงใน 2 ด้าน โดยด้านหนึ่งคือการชะลอตัวของเศรษฐกิจในต่างประเทศ ขณะเดียวกัน เฟดก็เผชิญความเสี่ยงจากการที่เศรษฐกิจสหรัฐอาจร้อนแรงเกินไป หากเฟดคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเป็นเวลานานเกินไป

นายโรเซนเกรนยังกล่าวว่า "หากเราต้องการมีการจ้างงานเต็มศักยภาพ การคุมเข้มนโยบายอย่างค่อยเป็นค่อยไปจึงเป็นเรื่องที่เหมาะสม เพื่อปรับนโยบายการเงินเข้าสู่ภาวะปกติ"

ประธานเฟดบอสตันไม่ได้ระบุว่าเขาคาดหวังให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นปีหรือไม่ แต่ถ้อยแถลงของเขาสอดคล้องกับสิ่งที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า ปัจจัยที่สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยกำลังมีน้ำหนักมากขึ้น

ทางด้านนายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟด สาขาดัลลัส กล่าวว่า ปัจจัยที่สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย กำลังมีน้ำหนักมากขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี นายแคปแลนกล่าวว่า การที่มีปัจจัยกระทบการขยายตัวของเศรษฐกิจในระยะยาว บ่งชี้ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอัตราที่ช้ามาก

ประธานเฟดดัลลัส ยังกล่าวว่า รายงานการจ้างงานในช่วงที่ผ่านมา บ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานยังคงปรับตัวดีขึ้น และขณะที่อัตราเงินเฟ้อกำลังเพิ่มขึ้นอย่างเชื่องช้าไปสู่เป้าหมายของเฟดที่ 2% จึงคาดกันว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงค่อยๆปรับตัวขึ้นต่อไปในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า

CME Group FedWatch ระบุว่า นักลงทุนได้เพิ่มคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมเดือนนี้ หลังคำกล่าวของนายโรเซนเกรน และนายแคปแลน

ทั้งนี้ นักลงทุนเพิ่มความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.สู่ระดับ 24% จากเดิมที่ 18%

เกาหลีเหนือได้ออกมาประกาศความสำเร็จในการทดลองนิวเคลียร์ครั้งที่ 5 ในวันนี้ โดยการทดสอบครั้งนี้มีขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 68 ปีแห่งการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (DPRK)

นอกจากนี้ การดิ่งลงของราคาน้ำมัน ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันตลาดในวันนี้

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดิ่งลงกว่า 3% ในวันนี้จากแรงขายทำกำไร หลังราคาพุ่งขึ้นอย่างมากเมื่อคืนนี้ จากข้อมูลสต็อกน้ำมันสหรัฐที่ลดลงมากเกินคาด

ณ เวลา 01.11 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนต.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 1.63 ดอลลาร์ หรือ 3.42% สู่ระดับ 45.99 ดอลลาร์/บาร์เรล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ