ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (15 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า หลังจากสหรัฐรายงานยอดค้าปลีกที่ลดลงมากกว่าคาด นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากหุ้นแอปเปิลที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และราคาน้ำมันที่ฟื้นตัวขึ้น
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,212.48 จุด พุ่งขึ้น 177.71 จุด หรือ +0.99% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,249.69 จุด เพิ่มขึ้น 75.92 จุด หรือ +1.47% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,147.26 จุด เพิ่มขึ้น 21.49 จุด หรือ +1.01%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้งเมื่อคืนนี้ โดยได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนส.ค.ปรับตัวลง 0.3% เมื่อเทียบรายเดือน โดยลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับลงเพียง 0.1%
CME Group FedWatch ระบุว่า นักลงทุนได้ลดคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. หลังการเปิดเผยตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐที่ลดลงมากกว่าคาด
ทั้งนี้ นักลงทุนลดความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.สู่ระดับ 12% จากเดิมที่ 15%
นอกจากนี้ การฟื้นตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบ WTI ยังช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นเชฟรอน ดีดตัวขึ้น 1.6% และหุ้นมาราธอน ปิโตรเลียม ทะยานขึ้น 4.7%
หุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้น 3% และเป็นหุ้นที่หนุนตลาดเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน หลังจากบริษัทสปรินท์เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ที่ทางบริษัทเปิดรับคำสั่งซื้อไอโฟน 7 และไอโฟน 7 พลัสตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย. ลูกค้าได้สั่งจองไอโฟนทั้ง 2 รุ่นในอัตราที่มากกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้วเกือบ 4 เท่า โดยเพิ่มขึ้นมากกว่า 375% ในช่วง 3 วันแรก
การพุ่งขึ้นของหุ้นแอปเปิลช่วยหนุนหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นไมโครซอฟท์ปรับตัวขึ้น 1.8% และหุ้นอินเทลดีดตัวขึ้น 2.8%
หุ้นกู๊ดเยียร์ ไทร์ แอนด์ รับเบอร์ พุ่งขึ้น 5.1% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นเป็น 43%
หุ้นธนาคารเวลส์ ฟาร์โก ปรับตัวลง 0.8% หลังจากมีรายงานว่าหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐยังคงเดินหน้าตรวจสอบการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการเงินของธนาคารเวลส์ ฟาร์โก หลังจากที่ธนาคารได้ถูกปรับเป็นเงินมูลค่า 185 ล้านดอลลาร์ จากการที่พนักงานเปิดบัญชีลูกค้าปลอมเป็นจำนวนกว่า 2 ล้านบัญชี เพื่อให้สามารถบรรลุเป้ายอดขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินของธนาคาร
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนก.ย.โดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน