ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (16 ก.ย.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง หลังจากมีรายงานว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้เรียกร้องให้ดอยซ์แบงก์จ่ายค่าปรับเป็นเงินกว่าหมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อยุติคดีความที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) ซึ่งข่าวดังกล่าวส่งผลให้หุ้นดอยซ์แบงก์ร่วงลงอย่างหนัก
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,710.28 จุด ลดลง 20.02 จุด หรือ -0.30%
หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงอย่างหนัก จากข่าวที่ว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้เรียกร้องให้ดอยซ์แบงก์จ่ายค่าปรับเป็นเงิน 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อยุติการสอบสวนในคดีที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) ซึ่งเป็นต้นเหตุของวิกฤตการเงินโลกปี 2008
อย่างไรก็ดี ดอยซ์แบงก์เปิดเผยว่า ธนาคารยังไม่มีแผนที่จะยุติคดีความทางแพ่งด้วยการจ่ายเงินจำนวนดังกล่าว พร้อมระบุว่า ดอยซ์แบงก์ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นการเจรจากับสหรัฐ และคาดหวังว่าผลของการเจรจาจะนำไปสู่การชำระเงินในจำนวนที่ไม่ต่างจากที่สถาบันการเงินอื่นๆได้ชำระตามที่ถูกเรียกร้อง
ข่าวดังกล่าวของดอยซ์แบงก์ได้ฉุดหุ้นกลุ่มธนาคารของอังกฤษร่วงลงด้วย โดยหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ดิ่งลง 4.4% และหุ้นบาร์เคลย์ส ปรับตัวลง 2.8% หุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ดิ่งลง 2.7% หุ้นเอชเอสบีซี ปรับตัวลง 0.9% และหุ้นลอยด์ แบงกิ้ง ลดลง 0.4%