ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (19 ก.ย.) โดยตลาดได้รับปัจจัยบวกจากการดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมัน ซึ่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นด้วย
ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1% ปิดที่ 341.27 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,394.19 จุด เพิ่มขึ้น 61.74 จุด หรือ +1.43% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,373.87 จุด เพิ่มขึ้น 97.70 จุด หรือ +0.95% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,813.55 จุด เพิ่มขึ้น 103.27 จุด หรือ +1.54%
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของราคาน้ำมัน หลังจากนายนิโคลัส มาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา กล่าวว่า โอเปกและประเทศนอกกลุ่มโอเปก กำลังใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงเพื่อรักษาเสถียรภาพในตลาดน้ำมัน โดยคาดว่าจะมีการประกาศข้อตกลงภายในเดือนนี้
ทั้งนี้ การปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ดีดตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นโททาล พุ่งขึ้น 2.7% หุ้นรอยัล ดัชท์ เชลล์ ปรับขึ้น 1.8% หุ้น Eni ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานของอิตาลี พุ่งขึ้น 1.5%
ส่วนหุ้นในกลุ่มเหมืองแร่นั้น หุ้นเกลนคอร์ รีซอสเซส ทะยานขึ้น 6.2% หลังจากนักวิเคราะห์ของเครดิตสวิสได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นเกลนคอร์
สำหรับการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งมีขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ ที่เมืองบราติสลาวา เมืองหลวงของสโลวาเกียนั้น ที่ประชุมได้ร่าง "แถลงการณ์และโรดแม็พบราติสลาวา (Bratislava Declaration and Roadmap) " เพื่อวางกรอบการดำเนินงานของ EU
ทั้งนี้ แถลงการณ์และโรดแม็พบราติสลาวาซึ่งมีความยาว 4 หน้านั้น ประกอบไปด้วยแผนการฟื้นฟูความเชื่อมั่นของชาวยุโรปที่วิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาผู้ลี้ภัย ความมั่นคง และเศรษฐกิจ รวมทั้งการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในยุโรป แม้ว่าอังกฤษได้ถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิก EU ก็ตาม