ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดร่วง 166.62 จุด ก่อนศึกดีเบต "ฮิลลารี VS ทรัมป์"

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 27, 2016 06:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (26 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่นางฮิลลารี คลินตัน และนายโดนัลด์ ทรัมป์ จะเผชิญหน้ากันในการโต้วาทีครั้งแรก ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์สำคัญที่อาจชี้ชะตาผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปลายปีนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของดอยซ์แบงก์ หลังจากมีข่าวว่า รัฐบาลเยอรมนีปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือธนาคารรายใหญ่แห่งนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,094.83 จุด ร่วงลง 166.62 จุด หรือ -0.91% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,257.49 จุด ลดลง 48.26 จุด หรือ -0.91% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,146.10 จุด ลดลง 18.59 จุด หรือ -0.86%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขาย ก่อนที่การโต้วาทีครั้งแรกระหว่างนางฮิลลารี ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต และนายทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน จะมีขึ้นที่มหาวิทยาลัยฮอฟสตรา รัฐนิวยอร์ก ในเวลา 08.00 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ โดยจะใช้เวลา 90 นาที และจะมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ผ่านเครือข่ายยักษ์ใหญ่ในสหรัฐ รวมทั้งช่อง CNN และ BBC ไปยังผู้ชมทั่วโลก

แดเนียล คลิฟตัน หัวหน้าสถาบันวิจัยสเตรทแกส กล่าวแสดงความเห็นว่า "ตลาดหุ้นมักจะขึ้น หากพรรคการเมืองที่กำลังเป็นรัฐบาลสหรัฐในขณะนั้นโต้วาทีชนะ ซึ่งถ้าฮิลลารีสามารถปิดปากทรัมป์ในการดีเบตครั้งนี้ เราจะเห็นว่าดัชนี S&P 500 ทะยานขึ้นอย่างมาก แต่ถ้าทรัมป์ชนะการดีเบต นักลงทุนก็จะเทขายหุ้นในตลาด เนื่องจากทรัมป์เป็นคนที่เอาแน่เอานอนไม่ได้"

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของดอยซ์แบงก์ ธนาคารรายใหญ่ของเยอรมนี หลังจากมีข่าวว่า นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เมินให้ความช่วยเหลือต่อดอยซ์แบงก์ อันเนื่องมาจากการที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้เรียกร้องให้ดอยซ์แบงก์จ่ายค่าปรับเป็นเงิน 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อยุติการสอบสวนในคดีที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) ซึ่งเป็นต้นเหตุของวิกฤตการเงินโลกในปี 2008

ทางด้านดอยซ์แบงก์เปิดเผยว่า ธนาคารยังไม่มีแผนที่จะยุติคดีความทางแพ่งด้วยการจ่ายเงินจำนวนดังกล่าว พร้อมระบุว่า ดอยซ์แบงก์ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นการเจรจากับสหรัฐ และคาดหวังว่าผลของการเจรจาจะนำไปสู่การชำระเงินในจำนวนที่ไม่ต่างจากที่สถาบันการเงินอื่นๆได้ชำระตามที่ถูกเรียกร้อง

ทั้งนี้ หุ้นดอยซ์แบงก์ซึ่งจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กด้วยนั้น ปิดร่วงลง 7.1% และได้ฉุดหุ้นธนาคารรายอื่นๆดิ่งลงด้วย โดยหุ้นซิตี้กรุ๊ป ร่วงลง 2.7% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ดิ่งลง 2.2% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ปรับตัวลง 2.6%

หุ้นไฟเซอร์ ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ ร่วงลง 1.8% หลังจากบริษัทยืนยันว่าจะไม่มีการแยกธุรกิจออกเป็นสองภาคส่วน

หุ้นสมิธ แอนด์ เวสสัน ซึ่งเป็นบริษัทผลิตปืนรายใหญ่ ดิ่งลง 7.4% หลังจากมีรายงานว่ากองทัพสหรัฐปฏิเสธที่จะเปลี่ยนการใช้ปืนพก M9 เป็นรุ่นใหม่

ส่วนหุ้นทวิตเตอร์พุ่งขึ้น 3.3% ขานรับที่ว่า บริษัทวอท์ดิสนีย์แสดงความสนใจที่จะเข้าซื้อกิจการทวิตเตอร์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าทวิตเตอร์กำลังเจรจากับบริษัทกูเกิล และ Salesforce.com รวมทั้งบริษัทอีกหลายแห่ง เกี่ยวกับการขายกิจการบริษัท

นอกเหนือจากการดีเบตระหว่างนางฮิลลารีและนายทรัมป์แล้ว นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ด้วย ซึ่งได้แก่ ราคาบ้านเดือนก.ค.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนก.ย.โดยมาร์กิต, ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.จากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด และดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ย.จากเฟดสาขาริชมอนด์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ