ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดแดนลบในวันนี้ โดยปรับตัวลงเป็นวันที่ 2 ในรอบ 3 วัน ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงหลุดระดับ 18,000 จุด หลังการเปิดเผยตัวเลขการค้าจีนที่อ่อนแอ ขณะที่นักลงทุนกังวลต่อการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.
ณ เวลา 20.44 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 17,999.71 จุด ลดลง 144.53 จุด หรือ 0.79%
หุ้นกลุ่มการเงินดิ่งลงนำตลาดวันนี้ ขณะที่กลุ่มสาธารณูปโภคดีดตัวขึ้น
หุ้นโกลด์แมน แซคส์ฉุดตลาดลงมากที่สุดในวันนี้
ดัชนีดาวโจนส์มีแนวโน้มปรับตัวย่ำแย่ที่สุดในสัปดาห์นี้ในรอบ 5 สัปดาห์
สำนักงานศุลกากรจีนรายงานในวันนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนก.ย.ร่วงลง 5.6% เทียบรายปี ขณะที่ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 2.2%
ส่วนมูลค่าการค้าต่างประเทศในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้ ลดลง 1.9% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยยอดส่งออกในช่วงเวลาดังกล่าว ปรับตัวลง 1.6% และยอดนำเข้าลดลง 2.3%
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกทรงตัวในสัปดาห์ที่แล้วที่ระดับต่ำสุดในรอบ 43 ปี โดยอยู่ที่ระดับ 246,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.1973
การเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่ระดับต่ำดังกล่าว บ่งชี้ถึงภาวะตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.
เฟดเปิดเผยรายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ประจำเดือนก.ย. โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดที่ต้องการให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย มีความวิตกว่าการชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปเป็นเวลานานเกินไป จะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย
นักวิเคราะห์ทางด้านเทคนิคของธนาคารเอชเอสบีซีเตือนว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะทรุดตัวลงอย่างหนัก โดยได้ส่งสัญญาณเตือนสีแดงถึงแนวโน้มการปรับตัวลงของตลาด หลังเผชิญแรงขายอย่างหนัก
คำเตือนของเอชเอสบีซีในครั้งนี้ถือว่ารุนแรงกว่าในวันที่ 30 ก.ย. ซึ่งในขณะนั้นทางธนาคารให้สัญญาณเตือนสีส้ม โดยขณะนี้ นักวิเคราะห์ของเอชเอสบีซีมองว่าดัชนีดาวโจนส์กำลังมีรูปแบบการปรับตัวที่คล้ายคลึงกับการปรับตัวในช่วง"แบล็กมันเดย์"ในปี 1987 ซึ่งตลาดหุ้นดิ่งลงอย่างหนัก
เอชเอสบีซีระบุว่า แรงเทขายในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเมื่อวานนี้ครอบคลุมหุ้นแทบทุกกลุ่ม และบ่งชี้ถึงแรงกดดันจากคำสั่งขายอย่างรุนแรง ซึ่งปัจจัยทั้ง 2 เป็นสาเหตุที่ทำให้ทางธนาคารยกระดับการเตือนความเสี่ยงในตลาด
รายงานระบุว่า ระดับ 17,992 จุดนับเป็นเส้นแนวรับสำคัญ ซึ่งหากดาวโจนส์ดิ่งทะลุเส้นดังกล่าว จะเป็นการส่งสัญญาณการร่วงลงอย่างรุนแรงต่อไป