ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดแดนลบในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูถ้อยแถลงของนายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานเฟด ในวันนี้
ณ เวลา 20.38 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 18,113.87 จุด ลดลง 24.86 จุด หรือ 0.14%
หุ้นกลุ่มธุรกิจรักษาสุขภาพดิ่งลงนำตลาดวันนี้ ขณะที่กลุ่มสาธารณูปโภคดีดตัวขึ้น
ดัชนีดาวโจนส์มีแนวโน้มปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 3 ในเดือนต.ค.
ธนาคารแบงก์ ออฟ อเมริกา เปิดเผยว่า ทางธนาคารมีกำไร และรายได้ในไตรมาส 3 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ทั้งนี้ แบงก์ ออฟ อเมริกา ระบุว่า ธนาคารมีรายได้ 2.164 หมื่นล้านดอลลาร์ และกำไร 4.45 พันล้านดอลลาร์ หรือ 41 เซนต์/หุ้นในไตรมาส 3 โดยกำไรพุ่งขึ้น 6.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
นักวิเคราะห์คาดการณ์รายได้ที่ระดับ 2.096 หมื่นล้านดอลลาร์ และกำไร 34 เซนต์/หุ้นในไตรมาส 3
แบงก์ ออฟ อเมริกาเปิดเผยว่า กำไรที่พุ่งขึ้นมาจากรายได้จากการซื้อขายตราสารหนี้ที่ทะยานขึ้น 32% แม้ว่ารายได้จากการซื้อขายหลักทรัพย์ลดลง 17%
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมขยับขึ้น 0.1% ในเดือนก.ย. สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากที่ลดลง 0.5% ในเดือนส.ค.
การผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 1.8% ในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2015
การผลิตภาคอุตสาหกรรมยังคงได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และการดิ่งลงของราคาน้ำมัน
ทั้งนี้ การผลิตภาคอุตสาหกรรมเป็นการประเมินผลผลิตในภาคการผลิต ภาคสาธารณูปโภค และภาคเหมืองแร่ของสหรัฐ โดยภาคการผลิต และภาคเหมืองแร่ต่างก็ดีดตัวขึ้นในเดือนก.ย. ขณะที่ภาคสาธารณูปโภคปรับตัวลง
ขณะเดียวกัน เฟดสาขานิวยอร์ค รายงานวันนี้ว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) หดตัวเป็นเดือนที่ 3 ในเดือนต.ค. ขณะที่คำสั่งซื้อใหม่, การขนส่ง และการจ้างงานต่างก็ปรับตัวลง
ทั้งนี้ ดัชนีภาคการผลิตร่วงลงสู่ระดับ -6.8 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. และลดลงจากระดับ -2.0 ในเดือนก.ย.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนีจะดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 1.0 ในเดือนต.ค.
ดัชนีที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 0 บ่งชี้ภาวะหดตัว ขณะที่เหนือระดับ 0 บ่งชี้ถึงภาวะขยายตัว