ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงในช่วงเปิดตลาดวันนี้โดยได้รับแรงกดดันจากการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัท ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ และมติคงนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB)
ณ เวลา 20.34 น. ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 18,179.5 จุด ลดลง 24 จุด หรือ 0.1%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่ซบเซาของบริษัทบางแห่ง โดยหุ้นเวอไรซอนลดลง 2% และหุ้นแทรเวลเลอร์ลดลง 2.5% หลังจากเปิดเผยผลประกอบการ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างเหนือการคาดหมายในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ยังอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง โดยอยู่ที่ระดับ 260,000 ราย เพิ่มขึ้น 13,000 ราย
นักลงทุนยังเข้าเทขายหุ้นหลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในการประชุมวันนี้
ECB ยังได้คงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.4% นอกจากนั้นยังคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%
ขณะเดียวกัน ECB ได้ประกาศคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน ไปจนถึงเดือนมี.ค.2560 และจะมีการขยายช่วงเวลาดังกล่าวออกไปหากมีความจำเป็น
ขณะที่นายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB ออกมาส่งสัญญาณว่า ECB ไม่แนวโน้มที่จะยกเลิกมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) โดยที่ไม่ได้ปรับลดขนาดของ QE ลงก่อน ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ ECB จะขยายระยะเวลาของมาตรการ QE ออกไปอีกภายหลังเดือนมี.ค. 2560