ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากมีรายงานสต็อกน้ำมันที่ผันผวนของสหรัฐ โดยแม้ว่าสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลง แต่รายงานของสถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.4% ปิดที่ 341.76 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,534.59 จุด ลดลง 6.25 จุด หรือ -0.14% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,709.68 จุด ลดลง 47.63 จุด หรือ -0.44% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,958.09 จุด ลดลง 59.55 จุด หรือ -0.85%
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง นำโดยหุ้นกัลป์ เอ็นเนอร์เจีย ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของโปรตุเกส ร่วงลง 1.7% หุ้นทุลโลว์ ออยล์ ดิ่งลง 1.4% หุ้นไซเพม เอสพีเอ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านวิศกรรมพลังงานของอิตาลี ร่วงลง 3%
ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงหลังจากข้อมูลด้านสต็อกน้ำมันของสหรัฐออกมาผันผวน โดย API รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 4.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
ด้านสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว โดยทำสถิติปรับตัวลง 6 สัปดาห์ในรอบ 7 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สต็อกน้ำมันดิบลดลง 553,000 บาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 2 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1 ล้านบาร์เรล
หุ้นอันโตฟากัสตา ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองรายใหญ่ ร่วงลง 3.2% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์การผลิตทองแดงในปีนี้
หุ้นเทเลนอร์ ร่วงลง 5.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุนในไตรมาส 3 ภายหลังจากที่เข้าซื้อหุ้นของบริษัทวิมเพลคอม
สำหรับข่าวความเคลื่อนไหวในยุโรปนั้น กองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ได้ปล่อยเงินกู้จำนวน 2.8 พันล้านยูโรให้แก่กรีซแล้วเมื่อวานนี้ หลังจากที่ประชุมรัฐมนตรีคลังของยูโรกรุ๊ปได้อนุมัติเงินกู้ดังกล่าวเมื่อวันที่ 11 ต.ค.
ทั้งนี้ ESM ได้ปล่อยเงินกู้ทั้งหมดจำนวน 1.735 แสนล้านยูโรแก่กรีซ จากโครงการให้ความช่วยเหลือทางด้านการเงินจำนวน 3 โครงการ ส่งผลให้ ESM เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดของกรีซ