ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดแดนบวกในวันนี้ โดยดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 3 ในรอบ 4 วันทำการ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการ และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ
ณ เวลา 20.46 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 18,219.60 จุด เพิ่มขึ้น 21.16 จุด หรือ 0.11%
หุ้นกลุ่มธุรกิจรักษาสุขภาพดีดตัวนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ร่วงลง
ดัชนีดาวโจนส์มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน รวมทั้งอาจทำสถิติปรับตัวขึ้นในสัปดาห์นี้มากที่สุดในรอบ 5 สัปดาห์
หุ้น IBM และเชฟรอนช่วยหนุนตลาดขึ้นมากที่สุดในวันนี้
บริษัททวิตเตอร์ อิงค์ เปิดเผยว่า ทางบริษัทประสบภาวะขาดทุน 102.9 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 หรือ 15 เซนต์/หุ้น
อย่างไรก็ดี เมื่อมีการปรับมูลค่าทางบัญชี บริษัทมีกำไร 13 เซนต์/หุ้น ขณะที่มีรายได้ 616 ล้านดอลลาร์
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า บริษัทจะมีกำไร 9 เซนต์/หุ้น และมีรายได้ 605.7 ล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ ทวิตเตอร์ประกาศปลดพนักงานราว 9% ทั่วโลกในวันนี้ หรือคิดเป็นจำนวนมากกว่า 300 คนของพนักงานทั้งหมด
ข่าวการปลดพนักงานดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่บริษัท Salesforce.com, วอลท์ดิสนีย์ และ อัลฟาเบท ต่างก็ไม่ได้แสดงความสนใจที่จะเข้าซื้อกิจการของบริษัท
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ลดลง 0.1% ในเดือนก.ย. หลังจากร่วงลง 0.3% ในเดือนส.ค. ท่ามกลางอุปสงค์ที่ลดลงสำหรับคอมพิวเตอร์, สินค้าอิเลกทรอนิกส์ และอุปกรณ์ด้านการขนส่ง
ขณะเดียวกัน ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน และเป็นสิ่งบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ ลดลง 1.2% ในเดือนก.ย. หลังจากปรับตัวขึ้น 3 เดือนติดต่อกัน
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐานของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ย.
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 3,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 258,000 ราย
การเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่ลดลงดังกล่าว บ่งชี้ถึงภาวะตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.