ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (1 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนบางแห่ง รวมทั้งความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ หลังจากมีข่าวว่าสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) เตรียมรื้อคดีการใช้เซิร์ฟเวอร์อีเมล์ส่วนตัวของนางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 1.1% ปิดที่ 335.33 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,526.16 จุด ลดลง 138.85 จุด หรือ -1.30% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,470.28 จุด ลดลง 38.98 จุด หรือ -0.86% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,917.14 จุด ลดลง 37.08 จุด หรือ -0.53%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลง เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซา โดยผลสำรวจล่าสุดของเอบีซี นิวส์/วอชิงตัน โพสต์ ระบุว่า คะแนนนิยมของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน ขยับขึ้นมาอยู่เหนือนางฮิลลารีอยู่ 1 จุด ขณะที่ผลสำรวจจากเรียลเคลียร์โพลิติกส์ระบุว่า นางฮิลลารีมีคะแนนนิยมนำหน้านายทรัมป์อยู่เพียง 2.2 จุด จากเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนที่มีคะแนนนำอยู่กว่า 7 จุด
ผลสำรวจดังกล่าวมีขึ้นหลังจากมีข่าวว่า สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) เตรียมรื้อคดีการใช้เซิร์ฟเวอร์อีเมล์ส่วนตัวของนางฮิลลารี
หุ้นบีพีร่วงลง 4.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรสุทธิอยู่ที่ 1.66 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบรายปี แต่ตัวเลขดังกล่าวยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
หุ้นเวียร์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทวิศวกรรมด้านพลังงาน ดิ่งลง 2.4% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลกำไรตลอดปี 2559
หุ้นแพนโดรา ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องประดับชื่อดังของเดนมาร์ก ร่วงลง 5.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์