ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดแดนบวกในวันนี้ โดยดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 วันทำการ ขณะที่นักลงทุนพิจารณาข้อมูลเศรษฐกิจ และผลประกอบการ
อย่างไรก็ดี ความกังวลต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งจะมีขึ้นในอีกไม่กี่วัน ได้เป็นปัจจัยกดดันตลาด
ณ เวลา 20.45 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 17,999.64 จุด เพิ่มขึ้น 39.59 จุด หรือ 0.22%
หุ้นกลุ่มธุรกิจดูแลสุขภาพดีดตัวนำตลาด ขณะที่กลุ่มสาธารณูปโภคร่วงลง
ดัชนีดาวโจนส์มีแนวโน้มทำสถิติปรับตัวย่ำแย่ที่สุดในสัปดาห์นี้ในรอบ 8 สัปดาห์
ผลการสำรวจล่าสุดของรอยเตอร์/อิบซอสบ่งชี้ว่า นางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต ยังคงมีคะแนนนิยมทิ้งห่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน อยู่ 6 จุด ซึ่งเป็นช่วงห่างเท่ากับในช่วงก่อนที่สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) เปิดเผยว่าอาจรื้อฟื้นคดีการใช้เซิร์ฟเวอร์อีเมล์ส่วนตัวของนางฮิลลารี
นายเจมส์ โคมีย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) ส่งหนังสือไปยังสภาคองเกรสเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว โดยระบุว่า FBI พบอีเมล์ใหม่ของนางฮิลลารีซึ่งพัวพันกับคดีการใช้เซิร์ฟเวอร์อีเมล์ส่วนตัว แม้ว่า FBI ประกาศปิดคดีดังกล่าวไปในเดือนก.ค.ก็ตาม
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาตัวเลขจ้างงานของสหรัฐในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะบ่งชี้แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในรอบ 10 ปี
ผลการสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 4.9% จากเดิมที่ระดับ 5.0%
เมื่อเดือนที่แล้ว กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 156,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ขณะที่อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.0%
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 7,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 265,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะทรงตัวที่ระดับ 258,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว