ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) นำโดยหุ้นกลุ่มส่งออก เนื่องจากการแข็งค่าของเงินปอนด์ หลังศาลสูงสุดของสหราชอาณาจักรมีคำวินิจฉัยว่า รัฐบาลของสหราชอาณาจักรจะต้องขอการอนุมัติจากรัฐสภาเพื่อเริ่มต้นกระบวนการแยกตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) ก่อนที่รัฐบาลจะสามารถดำเนินการได้
ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลง 54.91 จุด หรือ 0.80% แตะที่ 6,790.51 จุด
เงินสกุลปอนด์แข็งค่าขึ้นหลังจากศาลสูงสุดของสหราชอาณาจักรมีคำวินิจฉัยว่า รัฐบาลของสหราชอาณาจักรจะต้องขอการอนุมัติจากรัฐสภาเพื่อเริ่มต้นกระบวนการแยกตัวจากสหภาพยุโรป ก่อนที่รัฐบาลจะสามารถดำเนินการได้
คำวินิจฉัยของศาลดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ซึ่งระบุก่อนหน้านี้ว่า รัฐบาลสามารถประกาศใช้มาตรา 50 ของสนธิสัญญาลิสบอนของสหภาพยุโรป (EU) เพื่อเริ่มต้นกระบวนการแยกตัวออกจาก EU ได้ โดยไม่ต้องขอการอนุมัติจากรัฐสภา
ทั้งนี้ ศาลได้กำหนดให้รัฐบาลสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อคำวินิจฉัยดังกล่าวได้ในวันที่ 5-8 ธ.ค.
การแข็งค่าของเงินสกุลปอนด์ส่งผลให้หุ้นกลุ่มที่ได้มีรายได้ส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศปรับตัวลดลง โดยหุ้นเอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ หุ้นเดียจีโอ และหุ้นแอสตราเซเนกา ต่างก็ปรับตัวลดลงไม่ต่ำกว่า 1.1%
หุ้นแรนด์โกลด์ รีซอร์สเซส ร่วงลง 6.3% หลังรายงานว่า ผลผลิตทองคำของบริษัทได้ปรับตัวลดลง ในขณะที่หุ้นเฟรสนิลโลร่วงลง 4.3% เนื่องจากการปรับตัวลดลงของราคาโลหะเงิน