ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 42.39 จุด เหตุวิตกเลือกตั้งสหรัฐ, คาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยเดือนหน้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday November 5, 2016 05:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.) โดยดาวโจนส์ปรับตัวลดลงติดต่อกัน 7 วันทำการ ขณะที่ S&P 500 ทำสถิติร่วงลงติดต่อกัน 9 วันทำการ ซึ่งยาวนานที่สุดในรอบเกือบ 36 ปี เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐจะมีขึ้นในวันที่ 8 พ.ย.นี้ และจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 42.39 จุด หรือ 0.24% ปิดที่ 17,888.28 จุด ดัชนี S&P500 ลดลง 3.48 จุด หรือ 0.17% ปิดที่ 2,085.18 จุด และดัชนี NASDAQ ลดลง 12.04 จุด หรือ 0.24% ปิดที่ 5,046.37 จุด

ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 1.5% ดัชนี S&P500 ลบ 1.9% และดัชนี NASDAQ ร่วงลง 2.8%

หุ้นสตาร์บัคส์ คอร์ป บริษัทกาแฟยักษ์ใหญ่ของโลก เพิ่มขึ้น 2% หลังบริษัทเผยผลประกอบการที่สดใส ส่วนหุ้นโกโปร อิงค์ ผู้ผลิตกล้องชื่อดัง ร่วงลง 6.5% หลังผลประกอบการต่ำกว่าคาดการณ์ และหุ้นมอนสเตอร์ เบฟเวอเรจ คอร์ป ลดลง 3.6% หลังเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 161,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะเพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.9% ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์

ขณะเดียวกัน ตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน ซึ่งเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ ได้เพิ่มขึ้น 10 เซนต์ หรือ 0.4% ในเดือนต.ค. จากตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.3% ซึ่งหากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตัวเลขรายได้ดังกล่าวจะพุ่งขึ้น 2.8% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 7 ปีครึ่ง

กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขการจ้างงานในเดือนก.ย. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 191,000 ตำแหน่ง จากที่มีการรายงานก่อนหน้านี้ว่าเพิ่มขึ้น 156,000 ตำแหน่ง และทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขการจ้างงานในเดือนส.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 176,000 ตำแหน่ง จากที่มีการรายงานก่อนหน้านี้ว่าเพิ่มขึ้น 167,000 ตำแหน่ง

นักวิเคราะห์ระบุว่า การเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานในเดือนต.ค.ที่ใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ไว้ รวมทั้งรายได้ต่อชั่วโมงของแรงงานที่พุ่งขึ้น และการปรับเพิ่มตัวเลขจ้างงานในเดือนก.ย. จะเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ หลังผลสำรวจบ่งชี้ว่าคะแนนนิยมของนางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต และนายโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน สูสีกันมาก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ