ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 371.32 จุด รับคาดการณ์"ฮิลลารี"คว้าชัย หลังพ้นคดี FBI

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 8, 2016 06:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (7 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า นางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต มีแนวโน้มที่จะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง หลังจากสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) ยืนยันว่าไม่พบหลักฐานใหม่ที่จะทำให้มีการดำเนินคดีอาญาต่อนางฮิลลารี

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,259.60 จุด พุ่งขึ้น 371.32 จุด หรือ +2.08% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,166.17 จุด พุ่งขึ้น 119.80 จุด หรือ +2.37% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2131.52 จุด เพิ่มขึ้น 46.34 จุด หรือ +22%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากมีกระแสคาดการณ์ที่ว่า นางฮิลลารีจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ หลังจากนายเจมส์ โคมีย์ ผู้อำนวยการ FBI ยืนยันต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐว่า FBI จะไม่เปลี่ยนแปลงข้อสรุปที่ว่า นางฮิลลารีไม่มีความผิดทางคดีอาญา หลังจากที่ทาง FBI ได้เสร็จสิ้นการตรวจสอบอีเมล์ส่วนตัวที่นางฮิลลารีได้รับและส่งข้อความในช่วงที่ดำรงตำแหน่งรมว.ต่างประเทศสหรัฐ

นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกนระบุในรายงานคาดการณ์ว่า ดัชนี S&P 500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะพุ่งขึ้น 3% จากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ถ้าหากนางฮิลลารีชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในในวันที่ 8 พ.ย.นี้ตามเวลาสรหัฐ โดยคาดว่า ดัชนี S&P500 จะดีดตัวกลับสู่ระดับ 2,150 จุด ขณะที่ตลาดุห้นยุโรป และตลาดเกิดใหม่จะพุ่งขึ้น 3-4% ขณะที่ผลการสำรวจของ NBC News/Survey Monkey Weekly Election Tracking Poll ซึ่งเป็นการสำรวจกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศสหรัฐ บ่งชี้ว่า นางฮิลลารียังคงมีคะแนนนิยมทิ้งห่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน

ทั้งนี้ ในการสำรวจพบว่า นางฮิลลารีมีคะแนนนำหน้านายทรัมป์ 6 จุด โดยอยู่ที่ 47% ต่อ 41%

หุ้นกลุ่มการเงินดีดตัวขึ้นขานรับกระแสคาดการณ์นางฮิลลารีคว้าชัยเชือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ และหุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 3% ขณะที่ดัชนี S&P กลุ่มการเงิน พุ่งขึ้น 2.6%

หุ้นเบิร์กเชียร์แฮทาเวย์ ของนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ พุ่งขึ้นกว่า 2% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด

หุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นเรเจเนรอน ฟาร์มาซูติคัล พุ่งขึ้น 7% หุ้นไบโอเจน ดีดขึ้น 6.7%

ทั้งนี้ นอกเหนือจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีในอังคารที่ 8 พ.ย.ตามเวลาสหรัฐ หรือเช้าวันที่ 9 พ.ย.ตามเวลาไทยแล้ว นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ด้วย ซึ่งได้แก่ สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ