ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (7 พ.ย.) หลังจากสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) ยืนยันว่าไม่พบหลักฐานใหม่ที่จะทำให้มีการดำเนินคดีอาญาต่อนางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า นางฮิลลารีอาจจะคว้าชัยในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ
ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.53% ปิดที่ 333.84 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย.
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,461.21 จุด เพิ่มขึ้น 83.75 จุด หรือ +1.91% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,456.95 จุด พุ่งขึ้น 197.82 จุด หรือ +1.93% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,806.90 จุด เพิ่มขึ้น 113.64 จุด หรือ +1.70%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้น หลังจากนายเจมส์ โคมีย์ ผู้อำนวยการ FBI ยืนยันต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐว่า FBI จะไม่เปลี่ยนแปลงข้อสรุปที่ว่า นางฮิลลารีไม่มีความผิดทางคดีอาญา หลังจากที่ทาง FBI ได้เสร็จสิ้นการตรวจสอบอีเมล์ส่วนตัวที่นางฮิลลารีได้รับและส่งข้อความในช่วงที่ดำรงตำแหน่งรมว.ต่างประเทศสหรัฐ
นักวิเคราะห์คาดว่า การที่นางฮิลลารีพ้นคดีอื้อฉาวของ FBI อาจทำให้เธอมีโอกาสที่จะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยผลการสำรวจของ NBC News/Survey Monkey Weekly Election Tracking Poll ซึ่งเป็นการสำรวจกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศสหรัฐ บ่งชี้ว่า นางฮิลลารียังคงมีคะแนนนิยมทิ้งห่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน
ทั้งนี้ ในการสำรวจพบว่า นางฮิลลารีมีคะแนนนำหน้านายทรัมป์ 6 จุด โดยอยู่ที่ 47% ต่อ 41%
หุ้นธนาคารเอชเอสบีซี พุ่งขึ้น 4.6% หลังจากธนาคารเปิดเผยกำไรก่อนหักภาษีในไตรมาส 3 ปรับตัวขึ้น 7% สู่ระดับ 5.59 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 5.29 พันล้านดอลลาร์ ส่วนรายได้ในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 2.4% แตะที่ 1.28 หมื่นล้านดอลลาร์
หุ้นไรอันแอร์ โฮลดิงส์ พุ่งขึ้น 5.3% หลังจากสายการบินสัญชาติไอร์แลนด์แห่งนี้เปิดเผยกำไรไตรมาสสองพุ่งขึ้น 8% แตะ 912 ล้านยูโร (1 พันล้านดอลลาร์) เมื่อเทียบกับไตรมาสสองของปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่ 843.1 ล้านยูโร
หุ้นริโอทินโต ทะยานขึ้น 3.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่า เหมืองเพชรที่ทางบริษัทประมูลซื้อในออสเตรเลียตะวันตกนั้น ให้ผลลัพธ์เป็นเพชรที่มีราคาต่อกะรัตสูงสุดเป็นประวัติการณ์