ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าย่อตัวลงในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะพักฐานในคืนนี้ หลังจากที่ทะยานขึ้นอย่างมากเมื่อวานนี้ จากการคาดการณ์ที่ว่า นางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต มีแนวโน้มที่จะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง หลังจากสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) ยืนยันว่าไม่พบหลักฐานใหม่ที่จะทำให้มีการดำเนินคดีอาญาต่อนางฮิลลารี
ณ เวลา 18.49 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าลบ 22 จุด หรือ 0.12% สู่ระดับ 18,170 จุด
ตลาดการเงินทั่วโลกได้ปรับตัวรับคาดการณ์เกี่ยวกับการได้รับชัยชนะของนางฮิลลารีแล้ว นอกจากนี้ ตลาดยังคาดว่าพรรครีพับลิกันจะยังคงครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ขณะที่พรรคเดโมแครตจะครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา
ในวันนี้ นอกจากชาวสหรัฐที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปจะออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งประธานาธิบดีแล้ว พวกเขายังจะทำการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งสภาจำนวน 435 คน และเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 1 ใน 3 ของทั้งหมด หรือจำนวน 33 คน จากทั้งหมด 100 คน โดยการเลือกตั้งประธานาธิบดีจะมีขึ้นทุก 4 ปี และการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะมีขึ้นทุก 2 ปี
ขณะเดียวกัน ชาวสหรัฐยังออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐจำนวนหลายพันคนทั่วประเทศ ซึ่งรวมถึงผู้ว่าการรัฐ และผู้พิพากษา ส่งผลให้การเลือกตั้งในวันนี้ ถือเป็นการเดิมพันครั้งสำคัญต่อทั้งพรรคเดโมแครต และรีพับลิกัน เนื่องจากจะเป็นการชี้เป็นชี้ตายสำหรับผู้สมัครของพรรคในการเข้าไปนั่งเก้าอี้ในทำเนียบขาว และการครองอำนาจในสภาคองเกรส รวมทั้งการเป็นผู้ว่าการรัฐ
นอกจากนี้ บางรัฐอาจพ่วงการทำประชามติในประเด็นต่างๆที่กำลังเป็นที่สนใจภายในรัฐให้ประชาชนลงคะแนนเสียงในวันนี้เช่นเดียวกัน เช่น การควบคุมอาวุธปืน หรือสิทธิของกลุ่มรักร่วมเพศ
ขณะนี้ ทุกคูหาเลือกตั้งในสหรัฐได้เปิดให้ชาวอเมริกันผู้มีสิทธิลงคะแนนสามารถเข้าไปใช้สิทธิแล้ว โดยรัฐนอร์ธ แคโรไลนาจะเป็นรัฐแรกๆ ที่จะมีการนับคะแนนเลือกตั้ง ซึ่งจะรู้ผลในพรุ่งนี้เช้าตามเวลาไทย โดยคะแนนในรัฐดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะบ่งชี้ทิศทางของผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ โดยหากนางฮิลลารีได้รับชัยชนะในนอร์ธ แคโรไลนา ก็จะเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าชาวแอฟริกัน-อเมริกันได้พากันออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งมากเหมือนกับในปี 2012 ซึ่งขณะนั้น ประธานาธิบดีบารัค โอบามา สามารถเอาชนะนายมิตต์ รอมนีย์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน
ขณะเดียวกัน สำหรับรัฐฟลอริดา ซึ่งมีคะแนนคณะผู้เลือกตั้งถึง 29 เสียง หากนางฮิลลารีชนะการเลือกตั้งในรัฐนี้ ก็จะทำให้ต้องการชัยชนะอีกเพียง 1 รัฐ จากรัฐที่เป็น swing-state ซึ่งไม่เป็นฐานเสียงของพรรคใด ซึ่งได้แก่ รัฐโอไฮโอ มิชิแกน และเพนซิลเวเนีย ขณะที่นายทรัมป์ต้องการชัยชนะในทั้ง 3 รัฐดังกล่าว
หากนายทรัมป์พ่ายแพ้ใน 2 ใน 3 รัฐต่อไปนี้ ซึ่งได้แก่ ฟลอริดา มิชิแกน และเพนซิลเวเนีย ก็จะแทบเป็นการยืนยันชัยชนะของนางฮิลลารี
นอกจากนี้ หากนายทรัมป์ต้องการคว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ เขาก็จะต้องคาดหวังให้กลุ่มฐานเสียงซึ่งเป็นชาวผิวขาวออกมาใช้สิทธิให้มากกว่าในปี 2012 และยังต้องให้ชาวแอฟริกัน-อเมริกัน รวมทั้งชาวฮิสแปนิกออกมาลงคะแนนเสียงไม่มากนัก เนื่องจาก 2 กลุ่มดังกล่าวถือเป็นฐานเสียงสำคัญของนางฮิลลารี