ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพลิกพุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในวันนี้ หลังเปิดตลาดในแดนลบ โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อในหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค และการสื่อสาร ขณะที่นักลงทุนเชื่อมั่นผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ
ณ เวลา 00.12 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 18,368.18 จุด เพิ่มขึ้น 108.58 จุด หรือ 0.59%
หุ้น 3M ดีดตัวนำตลาดมากที่สุดในวันนี้
ตลาดการเงินทั่วโลกได้ปรับตัวรับคาดการณ์เกี่ยวกับการได้รับชัยชนะของนางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต หลังจากสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) ยืนยันว่าไม่พบหลักฐานใหม่ที่จะทำให้มีการดำเนินคดีอาญาต่อนางฮิลลารี
นอกจากนี้ ตลาดยังคาดว่าพรรครีพับลิกันจะยังคงครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ขณะที่พรรคเดโมแครตจะครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา
นักวิเคราะห์ระบุว่า นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นต่อการเลือกตั้งในวันนี้ ขณะที่ผลสำรวจครั้งสุดท้ายของ Reuters/Ipsos States of the Nation ระบุว่า นางฮิลลารีมีโอกาสถึง 90% ที่จะชนะนายทรัมป์ และขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 45
ผลสำรวจระบุว่า โอกาสได้รับชัยชนะของนางฮิลลารียังคงใกล้เคียงกับการสำรวจในสัปดาห์ที่แล้ว และหากนายทรัมป์ต้องการได้รับชัยชนะ เขาก็จะต้องได้รับคะแนนเสียงจำนวนมากจากกลุ่มคนผิวขาว คนผิวสี และชาวฮิสแปนิกใน 6-7 รัฐ
นอกจากนี้ คะแนนนิยมของนางฮิลลารียังคงเหนือกว่านายทรัมป์ที่ระดับ 45% ต่อ 42% และนางฮิลลารียังมีแนวโน้มได้รับคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้งสูงถึง 303 เสียง โดยมากกว่าระดับ 270 เสียงที่จำเป็นต้องได้รับเพื่อให้ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง ขณะที่นายทรัมป์มีแนวโน้มได้รับคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้งเพียง 235 เสียง
ขณะนี้ ทุกคูหาเลือกตั้งในสหรัฐได้เปิดให้ชาวอเมริกันผู้มีสิทธิลงคะแนนสามารถเข้าไปใช้สิทธิแล้ว โดยรัฐนอร์ธ แคโรไลนาจะเป็นรัฐแรกๆ ที่จะมีการนับคะแนนเลือกตั้ง ซึ่งจะรู้ผลในพรุ่งนี้เช้าตามเวลาไทย โดยคะแนนในรัฐดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะบ่งชี้ทิศทางของผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ โดยหากนางฮิลลารีได้รับชัยชนะในนอร์ธ แคโรไลนา ก็จะเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าชาวแอฟริกัน-อเมริกันได้พากันออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งมากเหมือนกับในปี 2012 ซึ่งขณะนั้น ประธานาธิบดีบารัค โอบามา สามารถเอาชนะนายมิตต์ รอมนีย์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน
ขณะเดียวกัน สำหรับรัฐฟลอริดา ซึ่งมีคะแนนคณะผู้เลือกตั้งถึง 29 เสียง หากนางฮิลลารีชนะการเลือกตั้งในรัฐนี้ ก็จะทำให้ต้องการชัยชนะอีกเพียง 1 รัฐ จากรัฐที่เป็น swing-state ซึ่งไม่เป็นฐานเสียงของพรรคใด ซึ่งได้แก่ รัฐโอไฮโอ มิชิแกน และเพนซิลเวเนีย ขณะที่นายทรัมป์ต้องการชัยชนะในทั้ง 3 รัฐดังกล่าว
หากนายทรัมป์พ่ายแพ้ใน 2 ใน 3 รัฐต่อไปนี้ ซึ่งได้แก่ ฟลอริดา มิชิแกน และเพนซิลเวเนีย ก็จะแทบเป็นการยืนยันชัยชนะของนางฮิลลารี
นอกจากนี้ หากนายทรัมป์ต้องการคว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ เขาก็จะต้องคาดหวังให้กลุ่มฐานเสียงซึ่งเป็นชาวผิวขาวออกมาใช้สิทธิให้มากกว่าในปี 2012 และยังต้องให้ชาวแอฟริกัน-อเมริกัน รวมทั้งชาวฮิสแปนิกออกมาลงคะแนนเสียงไม่มากนัก เนื่องจาก 2 กลุ่มดังกล่าวถือเป็นฐานเสียงสำคัญของนางฮิลลารี