ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้นเกือบ 4% ขานรับความหวังที่ว่า รัสเซียจะให้ความร่วมมือในการตรึงกำลังการผลิต
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.3% ปิดที่ 340.23 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,685.13 จุด เพิ่มขึ้น 20.57 จุด หรือ +0.19% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,529.58 จุด เพิ่มขึ้น 25.23 จุด หรือ +0.56% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,777.96 จุด เพิ่มขึ้น 2.19 จุด หรือ +0.03%
หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ทะยานขึ้นเกือบ 4% เมื่อคืนนี้ ภายหลังจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียกล่าวว่า รัสเซียพร้อมที่จะตรึงกำลังการผลิตน้ำมัน
ทั้งนี้ หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ พุ่งขึ้น 1.4% ขณะที่หุ้นบีพี ปรับตัวขึ้น 1.9%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นแรนด์โกลด์ รีซอส พุ่งขึ้น 3.7% หุ้นเฟรสนิลโล ทะยานขึ้น 3.2%
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธนาคารของอิตาลียังคงร่วงลง เนื่องจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นก่อนการลงประชามติในวันที่ 4 ธ.ค.เกี่ยวกับการปฏิรูปรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจส่งผลให้นายกรัฐมนตรีมัตเตโอ เรนซี หลุดจากตำแหน่ง ขณะที่นักลงทุนวิตกว่าการลาออกของนายเรนซีจะยิ่งสร้างความยากลำบากในการแก้ไขปัญหาในภาคธนาคาร
ทั้งนี้ หุ้นบังคา เดอ มิลาโน ร่วงลง 3.9% หุ้นบังโค ป๊อปปูเลร์ ดิ่งลง 3.7% และหุ้นบังโค ป๊อปปูเลร์ เดล เอมิเลีย โรแมกนา ขยับลง 0.4%