ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นในการซื้อขายภาคบ่ายวันนี้ ภายหลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา รวมทั้งราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า การประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในวันที่ 30 พ.ย.นี้ จะสามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องการลดปริมาณการผลิตน้ำมันลง
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียเปิดวันนี้ที่ 25,928.16 จุด เพิ่มขึ้น 163.02 จุด, +0.63% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 22,646.38 จุด เพิ่มขึ้น 288.60 จุด, +1.29% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,630.86 จุด เพิ่มขึ้น 3.58 จุด, +0.22%
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวอยู่ที่กรอบบนของ 110 เยนในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงที่เกิดขึ้นทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นในช่วงเช้านี้
ณ เที่ยงวันนี้ ตามเวลาโตเกียว ดอลลาร์ซื้อขายที่ระดับ 110.86-110.87 เยน เมื่อเทียบกับ 110.72-110.82 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 110.91-110.93 เยนที่ตลาดโตเกียว ณ เวลา 17.00 น. เมื่อวานนี้
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (21 พ.ย.) หลังจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ประกาศความพร้อมที่จะตรึงกำลังการผลิตน้ำมัน พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ในประเด็นการปรับลดกำลังการผลิต ในการประชุมวันที่ 30 พ.ย.นี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 1.80 ดอลลาร์ หรือ 3.9% ปิดที่ 47.49 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำหรับความเคลื่อนไหวที่สำคัญที่เกิดขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ ได้แก่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้โพสต์คลิปวิดีโอผ่านทางยูทูบ เพื่อแถลงแผนการบริหารประเทศเมื่อเขาขึ้นดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการ พร้อมประกาศความตั้งใจที่จะถอนสหรัฐออกจากการเป็นสมาชิกข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP)
ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวในคลิปดังกล่าวว่า เขายังคงยึดหลักการ "อเมริกาต้องมาก่อน" ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการผลิตเหล็ก ผลิตรถยนต์ หรือในเรื่องการรักษาโรคก็ตาม และเขาจะสร้างความมั่งคั่งและสร้างงานให้กับชาวอเมริกัน