ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดแดนลบในวันนี้ โดยพักฐานหลังจากดีดตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวานนี้ ก่อนที่จะเป็นวันหยุดในสหรัฐพรุ่งนี้ เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า
ณ เวลา 21.55 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 19,015.52 จุด ลดลง 8.35 จุด หรือ 0.04%
หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมดีดตัวนำตลาดวันนี้ ขณะที่กลุ่มธุรกิจรักษาสุขภาพปรับตัวลง นำโดยหุ้นบริษัทเมอร์ค
หากดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวกวันนี้ จะเป็นการทำสถิติปรับตัวขึ้น 11 วันในรอบ 13 วันทำการ ขณะที่ดาวโจนส์มีแนวโน้มดีดตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน
การเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ได้เป็นปัจจัยหนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเดือนหน้า
CME Group FedWatch ระบุว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค.
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ดีดตัวขึ้นในเดือนต.ค. โดยพุ่งขึ้น 4.8% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2015 หลังจากปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.5% ในเดือนต.ค.
การทะยานขึ้นของยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนมีสาเหตุจากการปรับตัวขึ้นของอุปสงค์สำหรับเครื่องจักร และอุปกรณ์อื่นๆ
ขณะเดียวกัน ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน และเป็นสิ่งบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนต.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากลดลง 1.4% ในเดือนก.ย.
นอกจากนี้ การร่วงลงของราคาน้ำมัน และการแข็งค่าของดอลลาร์ ก็ได้กดดันบรรยากาศการซื้อขายในตลาด
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ย่อตัวลงในวันนี้ โดยนักลงทุนไม่มั่นใจว่าการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะมากพอที่จะลดปริมาณน้ำมันส่วนเกินในตลาด
นอกจากนี้ ความสำเร็จในการประชุมโอเปกในสัปดาห์หน้า ยังขึ้นอยู่กับการให้ความร่วมมือจากอิรัก และอิหร่าน ซึ่งอาจจะไม่ได้ให้การสนับสนุนการลดกำลังการผลิตอย่างเต็มที่
ณ เวลา 20.03 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนธ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 4 เซนต์ หรือ 0.08% สู่ระดับ 47.99 ดอลลาร์/บาร์เรล
ดัชนีดอลลาร์ดีดตัวขึ้นในวันนี้ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 13 ปีครึ่งที่ทำไว้ก่อนหน้านี้ หลังจากพุ่งขึ้นจากการคาดการณ์ที่ว่านโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ จะกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และผลักดันอัตราดอกเบี้ยให้ดีดตัวขึ้น
ณ เวลา 22.06 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 101.69