ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (30 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานอย่างคึกคัก หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตในการประชุมเมื่อวานนี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.3% ปิดที่ 341.99 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,578.34 จุด เพิ่มขึ้น 26.88 จุด หรือ +0.59% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,640.30 จุด เพิ่มขึ้น 19.81 จุด หรือ +0.19% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,783.79 จุด เพิ่มขึ้น 11.79 จุด หรือ +0.17%
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังจากโอเปกสามารถบรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรล/วันในการประชุมเมื่อวานนี้ สู่ระดับ 32.5 ล้านบาร์เรล/วัน จากเดิมที่ระดับ 33.8 ล้านบาร์เรล/วัน โดยเป็นไปตามกรอบข้อตกลงในการประชุมที่กรุงอัลเจียร์สในเดือนก.ย.
การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น โดยหุ้นเรพซอล พุ่งขึ้น 4.3% หุ้นทุลโลว์ ออยล์ ทะยานขึ้น 13% หุ้นกัลป์ เอนเนอร์เจีย ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของโปรตุเกส ปรับตัวขึ้น 4.5%
อย่างไรก็ตาม หุ้นลุฟฮันซาร่วงลง 1.61% หลังจากจำนวนผู้โดยสารลดลง อันเนื่องมาจากการประท้วงผละงานของกลุ่มนักบิน ซึ่งส่งผลกระทบต่อเที่ยวบินจำนวนมากของบริษัท
หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ร่วงลง 1.2% หลังจากธนาคารกลางอังกฤษเปิดเผยว่า รอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ (RBS) ไม่ผ่านการทดสอบภาวะวิกฤต และกำหนดให้ RBS ต้องยื่นแผนเพิ่มทุนฉบับแก้ไขใหม่