ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากรายงานที่ระบุว่า ภาคบริการของสหรัฐมีการขยายตัวที่แข็งแกร่งในเดือนพ.ย. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้ช่วยสกัดปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของยุโรป หลังจากผลการลงประชามติของอิตาลีบ่งชี้ว่าประชาชนไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญของประเทศ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,216.24 จุด เพิ่มขึ้น 45.82 จุด หรือ +0.24% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,308.89 จุด เพิ่มขึ้น 53.24 จุด หรือ +1.01% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,204.71 จุด เพิ่มขึ้น 12.76 จุด หรือ +0.58%
ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดดีดตัวขึ้น โดยในระหว่างวัน ดาวโจนส์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 19,274.85 จุด ขานรับผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ซึ่งระบุว่า ดัชนีภาคบริการของ ISM ขยายตัวที่ระดับ 57.2 ในเดือนพ.ย. พุ่งขึ้นจากระดับ 54.8 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 13 เดือน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 55.4
ขณะที่ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของสหรัฐ อยู่ที่ระดับ 54.6 ในเดือนพ.ย. ซึ่งแม้ว่าต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 54.7 แต่ดัชนียังคงอยู่สูงกว่า ระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคบริการ
ทั้งนี้ ข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของภาคบริการสหรัฐนั้น ได้ช่วยสกัดปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของยุโรป หลังจากผลการลงประชามติของอิตาลีบ่งชี้ว่าประชาชนไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญของประเทศ
นายกรัฐมนตรีมัตเตโอ เรนซี ประกาศลาออกจากตำแหน่งตามที่เคยประกาศไว้ว่าเขาจะลาออก หากประชาชนส่วนใหญ่ลงประชามติคัดค้านการปฏิรูปรัฐธรรมนูญ หรือโหวต NO โดยรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อลดทอนอำนาจของวุฒิสภา ซึ่งจะทำให้การผ่านกฎหมายเป็นไปได้ง่ายขึ้น อันจะส่งผลให้ประเทศสามารถแข่งขันได้มากขึ้น
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสร้างความไม่แน่นอนให้กับเศรษฐกิจอิตาลี และอาจเป็นชนวนเหตุให้เกิดความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับสามในยูโรโซน และเป็นอันดับสี่ในยุโรป
หุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มเทคโนโลยีได้รับแรงหนุนจากข้อมูลภาคบริการที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยหุ้นในกลุ่มธนาคารนั้น หุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 1.8% หุ้นซิตี้กรุ๊ป พุ่งขึ้น 2% ส่วนหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีนั้น หุ้นไมโครซอฟท์ ปรับตัวขึ้น 1.4% หุ้น Nvidia พุ่งขึ้น 3.8% และหุ้น Salesforce.com ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาซอฟท์แวร์ ปรับตัวขึ้น 3.4%
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน จากความวิตกกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ หลังจากมีรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 178,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 173,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.6% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 9 ปี สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 4.9%
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนต.ค. และผลิตภาพ-ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยไตรมาส 3/2559