ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนไม่ได้ให้ความสนใจมากนักต่อผลการลงประชามติของอิตาลีซึ่งระบุว่า ประชาชนไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญของประเทศ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.6% ปิดที่ 341.27 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,684.83 จุด เพิ่มขึ้น 171.48 จุด หรือ +1.63% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,574.32 จุด เพิ่มขึ้น 45.50 จุด หรือ +1.00% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,746.83 จุด เพิ่มขึ้น 16.11 จุด หรือ +0.24%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดตลาดปรับตัวขึ้น เนื่องจากนักลงทุนได้ซึมซับปัจจัยจากข่าวที่ว่า นายกรัฐมนตรีมัตเตโอ เรนซี ของอิตาลีประกาศลาออกจากตำแหน่ง ภายหลังผลการลงประชามติบ่งชี้ว่า ประชาชนไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
นายกรัฐมนตรีเรนซีได้แถลงยอมรับความพ่ายแพ้ในการลงประชามติ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อลดทอนอำนาจของวุฒิสภา ซึ่งจะทำให้การผ่านกฎหมายเป็นไปได้ง่ายขึ้น อันจะส่งผลให้ประเทศสามารถแข่งขันได้มากขึ้น พร้อมทั้งกล่าวว่าเขาเตรียมก้าวลงจากตำแหน่ง ตามที่เคยประกาศไว้ว่าเขาจะลาออก หากประชาชนส่วนใหญ่ลงประชามติคัดค้านการปฏิรูปรัฐธรรมนูญ หรือโหวต NO
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากมาร์กิต อิโคโนมิคส์ ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของยูโรโซนเดือนพ.ย. ขยายตัวแตะ 53.8 สูงกว่าเดือนต.ค.ที่ระดับ 52.8 และสูงกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 54.1
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธนาคารของอิตาลีร่วงลง เนื่องจากผลการลงประชามติอาจสร้างความไม่แน่นอนให้กับเศรษฐกิจอิตาลี และอาจเป็นชนวนเหตุให้เกิดความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับสามในยูโรโซน และเป็นอันดับสี่ในยุโรป
ทั้งนี้ หุ้นบังคา โปโปลาเร ดิ มิลาโน ร่วงลง 7.9% หุ้นอินเทซา ซานเปาโล ปรับตัวลง 1% หุ้นบังคา มอนเต เด ปาชี ร่วงลง 4.2% และหุ้นยูนิเครดิต ร่วงลง 3.4%