ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (5 ธ.ค.) โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มธนาคาร เนื่องจากนักลงทุนซึมซับข่าวการลาออกจากตำแหน่งของนายมัตเตโอ เรนซี นายกรัฐมนตรีอิตาลีเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวขึ้น 16.11 จุด หรือ 0.24% แตะที่ 6,746.83 จุด
หุ้นกลุ่มธนาคารหนุนตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 2.3% หลังจากธนาคารบรรลุข้อตกลงในการยุติการฟ้องร้องกับโจทก์จำนวน 3 ราย หุ้นบาร์เคลย์สเพิ่มขึ้น 1.8% และหุ้นลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 1.2%
นายกรัฐมนตรีมัตเตโอ เรนซี ประกาศลาออกจากตำแหน่งตามที่เคยประกาศไว้ว่าเขาจะลาออก หากประชาชนส่วนใหญ่ลงประชามติคัดค้านการปฏิรูปรัฐธรรมนูญ หรือโหวต NO โดยรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อลดทอนอำนาจของวุฒิสภา ซึ่งจะทำให้การผ่านกฎหมายเป็นไปได้ง่ายขึ้น อันจะส่งผลให้ประเทศสามารถแข่งขันได้มากขึ้น
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสร้างความไม่แน่นอนให้กับเศรษฐกิจอิตาลี และอาจเป็นชนวนเหตุให้เกิดความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับสามในยูโรโซน และเป็นอันดับสี่ในยุโรป
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานของผลสำรวจของมาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของอังกฤษเดือนพ.ย.อยู่ที่ 55.2 เพิ่มขึ้นจาก 54.5 เมื่อเดือนต.ค. และทำสถิติสูงสุดในรอบ 10 เดือน
ดัชนีที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ถึงภาวะการขยายตัวของภาคบริการ ส่วนระดับที่ต่ำกว่า 50 แสดงให้เห็นว่า กิจกรรมภาคบริการหดตัวลง
มาร์กิตระบุว่า ดัชนี PMI ได้ทรงตัวเหนือระดับ 50.0 เป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันแล้ว ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องหลังจากที่ได้หดตัวเมื่อเดือนก.ค. อันเป็นผลจากการลงประชามติแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป