ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าแทบไม่ขยับในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะเปิดตลาดทรงตัวในคืนนี้ หลังจากที่ดัชนีดาวโจนส์พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อคืนนี้ โดยไม่ได้รับผลกระทบจากการลงประชามติในอิตาลี
ณ เวลา 19.56 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าบวก 4 จุด หรือ 0.02% สู่ระดับ 19,214 จุด
นายมัตเตโอ เรนซี นายกรัฐมนตรีอิตาลี ประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังจากที่รัฐบาลประสบความล้มเหลวในการผลักดันให้มีแก้ไขรัฐธรรมนูญ
กระทรวงมหาดไทยอิตาลีเปิดเผยว่า ชาวอิตาลีได้ออกไปใช้สิทธิลงประชามติในครั้งนี้ 65.47% โดยประชาชนจำนวน 19,419,507 คน หรือคิดเป็น 59.11% โหวต "คัดค้าน" การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขณะที่ผู้โหวต "เห็นด้วย" มีจำนวน 13,432,208 เสียง คิดเป็น 40.89%
สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ออกแถลงการณ์ระบุว่า การลงประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญในอิตาลี จะไม่ส่งผลกระทบต่ออันดับความน่าเชื่อถือของประเทศ เนื่องจากการลงประชามติดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบเฉพาะหน้าต่องบประมาณ หรือสถานะการคลังของอิตาลี
ทั้งนี้ S&P ให้อันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีอยู่ที่ระดับ BBB ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดสำหรับช่วงอันดับความน่าเชื่อถือที่สามารถลงทุนได้
หาก S&P ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลี ก็จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อการกู้ยืมเงินของอิตาลี เนื่องจากจะทำให้ต้นทุนในการกู้ยืมเงินพุ่งขึ้น ขณะที่อิตาลีมีตัวเลขหนี้ต่อจีดีพีมากกว่า 135%
นักลงทุนจับตา Monte dei Paschi di Siena ซึ่งเป็นธนาคารอิตาลีที่มีสถานะการเงินย่ำแย่ที่สุดในประเทศ ขณะที่กำลังเผชิญปัญหาในการโน้มน้าวให้กองทุนการลงทุนจากกาตาร์อัดฉีดเงินจำนวน 1 พันล้านยูโรให้แก่ทางธนาคาร ตามแผนการเพิ่มทุน 5 พันล้านยูโร
นักลงทุนเอกชนมีความกังวลในการปล่อยกู้ให้กับ Monte dei Paschi di Siena เนื่องจากไม่มั่นใจต่อเสถียรภาพทางการเมืองในอิตาลี หลังผลการลงประชามติพบว่าประชาชนส่วนใหญ่คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งส่งผลให้นายกรัฐมนตรีต้องลาออกจากตำแหน่ง