ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดตลาดทรงตัวในวันนี้ โดยเป็นการพักฐาน หลังจากที่ทะยานขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่ที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ
นักลงทุนจับตาการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพรุ่งนี้ และการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในวันที่ 13-14 ธ.ค.
ณ เวลา 21.49 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 19,254.12 จุด บวก 2.34 จุด หรือ 0.01%
ดัชนีดาวโจนส์ได้ปรับตัวในแดนบวกเป็นเวลา 17 วันจาก 21 วันนับตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย. ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ และสามารถปิดตลาดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เป็นจำนวน 11 วัน
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงนำตลาดวันนี้ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดิ่งลงกว่า 1% ในวันนี้ จากการที่นักลงทุนไม่มั่นใจว่าการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และรัสเซียจะช่วยแก้ไขปัญหาน้ำมันล้นตลาด
ณ เวลา 20.53 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนม.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 63 เซนต์ หรือ 1.24% สู่ระดับ 50.30 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่า การผลิตน้ำมันในสหรัฐในปีนี้ และปีหน้า จะลดลงน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
ทางด้านโอเปกผลิตน้ำมัน 34.19 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากระดับ 33.82 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนต.ค. ขณะที่รัสเซียผลิตน้ำมัน 11.21 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 30 ปี
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ECB จะขยายเวลาในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ออกไปอีก 6 เดือน ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันพรุ่งนี้ เพื่อสกัดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการลงประชามติในอิตาลี
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ชาวอิตาลีส่วนใหญ่ลงประชามติคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่งผลให้นายมัตเตโอ เรนซี นายกรัฐมนตรีอิตาลี ประกาศลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกระบวนการแก้ไขปัญหาในภาคธนาคารของอิตาลี รวมทั้งจะบั่นทอนเสถียรภาพทางการเงินของยุโรปในที่สุด
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ECB จะขยายเวลาการใช้มาตรการ QE ออกไปอีก 6 เดือน โดยให้สิ้นสุดในเดือนก.ย.2017 จากเดิมที่จะครบกำหนดในเดือนมี.ค.2017 ขณะที่ ECB จะยังคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรที่ระดับ 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์บางรายยังคาดว่า ECB อาจจะทำการผ่อนคลายข้อกำหนดในการซื้อพันธบัตร โดยจะอนุญาตให้สามารถเข้าซื้อพันธบัตรที่มีผลตอบแทนต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก รวมทั้งสามารถเข้าซื้อพันธบัตรที่มีอายุต่ำกว่า 2 ปี
ทางด้าน CME Group FedWatch ระบุว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 93% ที่ FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค. ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในปีนี้ และครั้งที่ 2 ในรอบเกือบ 10 ปี