ดาวโจนส์ดีดตัวต่อเนื่อง ตามกระแส"ทรัมป์แรลลี่" ขณะจับตาประชุมเฟด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday December 9, 2016 22:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดแดนบวกในวันนี้ โดยดัชนีดาวโจนส์ยังคงดีดตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ต่อเนื่องจากที่ได้ทะยานขึ้นหลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

นอกจากนี้ นักลงทุนยังได้ขานรับผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) เมื่อคืนนี้ ซึ่งมีมติขยายระยะเวลาในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ออกไปอีก 9 เดือน

ณ เวลา 21.45 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 19,639.12 จุด เพิ่มขึ้น 23.18 จุด หรือ 0.13%

ดัชนีดาวโจนส์ได้ปรับตัวในแดนบวกเป็นเวลา 19 วันจาก 23 วันนับตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย. ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ และสามารถปิดตลาดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เป็นจำนวน 13 วัน

ดัชนีดาวโจนส์มีแนวโน้มทะยานขึ้น 2% ในสัปดาห์นี้ แม้เผชิญปัจจัยถ่วงตลาดจากการลงประชามติในอิตาลี และการที่ ECB เตรียมปรับลดวงเงิน QE นับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีหน้า

หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นนำตลาด ตามราคาน้ำมันที่ทะยานขึ้น ขณะที่หุ้นแอปเปิลช่วยหนุนตลาดมากที่สุดในวันนี้

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นกว่า 1% ในวันนี้ โดยปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน จากการคาดการณ์ในเชิงบวกต่อผลการประชุมระหว่างกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มในวันพรุ่งนี้

ณ เวลา 20.32 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนม.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 57 เซนต์ หรือ 1.12% สู่ระดับ 51.41 ดอลลาร์/บาร์เรล

นักลงทุนจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 13-14 ธ.ค.นี้ ขณะที่ CME Group FedWatch ระบุว่า การซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐบ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 98% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในปีนี้ และครั้งที่ 2 ในรอบเกือบ 10 ปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ