ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 114.78 จุด นักลงทุนรุกซื้อหุ้นก่อนรู้ผลประชุมเฟด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday December 14, 2016 06:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (13 ธ.ค.) โดยดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์เคลื่อนตัวเข้าใกล้ระดับ 20,000 จุด เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นอย่างคึกคัก ก่อนที่การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,911.21 จุด พุ่งขึ้น 114.78 จุด หรือ +0.58% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,463.83 จุด เพิ่มขึ้น 51.29 จุด หรือ +0.95% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,271.72 จุด เพิ่มขึ้น 14.76 จุด หรือ +0.65%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคัก ซึ่งช่วยหนุนดาวโจนส์, S&P500 และ NASDAQ ปิดทำนิวไฮ ก่อนที่การประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดจะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยกระแสคาดการณ์ส่วนใหญ่บ่งชี้ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในปีนี้ และเป็นครั้งที่ 2 ในรอบเกือบ 10 ปี นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาแถลงการณ์ของเฟดหลังการประชุมเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า

ทั้งนี้ หุ้น 9 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้น โดยดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 1.23% ทั้งนี้ หุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 1.67% หุ้นไอบีเอ็ม ปรับตัวขึ้น 1.69% หุ้นไมโครซอท์ พุ่งขึ้น 1.30% และหุ้นอเมซอน ดีดขึ้น 1.87%

หุ้นแอปเปิลได้รับแรงหนุนหลังจากวอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า แอปเปิลให้ความสนใจที่จะลงทุนมูลค่า 1 แสนล้านดอลลาร์ในบริษัทซอฟต์แบงก์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ให้บริการอินเตอร์และการสื่อสารรายใหญ่ของญี่ปุ่น

หุ้น Anheuser-Busch InBev (เอบี อินเบฟ) ปรับตัวขึ้น 1.3% หลังจากมีรายงานว่า บริษัทอาซาฮี กรุ๊ป โฮลดิ้งของญี่ปุ่น จะเข้าซื้อแบรนด์เบียร์ 5 แบรนด์ในยุโรปตะวันออกของเอบี อินเบฟ

หุ้นอินโนแวลอน โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการวิเคราะห์ข้อมูลด้านสุขภาพรายใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 37.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอเกินคาด

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐซึ่งมีการเปิดเผยล่าสุดนั้น กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคานำเข้าเดือนพ.ย.ปรับตัวลง 0.3% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. เนื่องจากต้นทุนราคาน้ำมันที่ลดลง ขณะที่การแข็งค่าของดอลลาร์เป็นปัจจัยสกัดราคานำเข้า

ขณะที่ดัชนีราคาส่งออกลดลง 0.1% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน และร่วงลง 0.3% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวลงน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2014 หลังจากร่วงลง 1.0% ในเดือนต.ค.

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย., ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย., การผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนพ.ย., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนต.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์, อัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ย., ดุลบัญชีเดินสะพัดประจำไตรมาส 3/2559, ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนธ.ค.จากเฟดนิวยอร์ก, ดัชนีภาคการผลิตเดือนธ.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนธ.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนธ.ค. จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) และตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน-การอนุญาตก่อสร้างเดือนพ.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ