ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนตัวลงในวันนี้ โดยดัชนีดาวโจนส์พักฐาน หลังดีดตัวแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใกล้ระดับ 20,000 จุดเมื่อวานนี้
นักลงทุนซื้อขายอย่างระมัดระวัง ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะสิ้นสุดการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันนี้
CME Group FedWatch ระบุว่า การซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐบ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสเกือบ 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในปีนี้ และครั้งที่ 2 ในรอบเกือบ 10 ปี
นักลงทุนจับตาแถลงการณ์ของเฟด และการแสดงความเห็นของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด หลังการประชุม เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
ณ เวลา 21.48 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 19,898.28 จุด ลดลง 13.89 จุด หรือ 0.07%
หุ้นกลุ่มการเงินดิ่งลงนำตลาดวันนี้ ขณะที่หุ้นโกลด์แมน แซคส์เป็นหุ้นที่ฉุดตลาดลงมากที่สุด
ดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย. ซึ่งเป็นวันที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ และขณะนี้ดัชนีดาวโจนส์อยู่ห่างจากระดับ 20,000 จุดเพียง 1% และสามารถปิดตลาดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 16 วันนับตั้งแต่เสร็จสิ้นการเลือกตั้งในสหรัฐ
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยในเดือนพ.ย. โดยเพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากพุ่งขึ้น 2 เดือนติดต่อกัน
ยอดค้าปลีกในเดือนพ.ย.ได้รับผลกระทบจากยอดจำหน่ายรถยนต์ที่ลดลง
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ย.
เมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 3.8% ในเดือนพ.ย.
ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนต.ค.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดค้าปลีกพื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ย.
ส่วนข้อมูลจากเฟดระบุว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลง 0.4% ในเดือนพ.ย. โดยร่วงลงมากกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนต.ค.
การปรับตัวลงของการผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนพ.ย. ทำสถิติร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมจะลดลง 0.2% ในเดือนพ.ย.
ทั้งนี้ การผลิตภาคอุตสาหกรรมเป็นการประเมินผลผลิตในภาคการผลิต ภาคสาธารณูปโภค และภาคเหมืองแร่ของสหรัฐ โดยภาคการผลิต และภาคสาธารณูปโภคต่างก็ปรับตัวลงในเดือนพ.ย. ขณะที่ภาคเหมืองแร่ดีดตัวขึ้น