ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 ธ.ค.) โดยดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 และเคลื่อนตัวเข้าใกล้แนวต้านที่ระดับ 20,000 จุด เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับที่ประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งมีมติคงนโยบายการเงินและปรับเพิ่มมุมมองทางเศรษฐกิจ ในการประชุมเมื่อวานนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,974.62 จุด เพิ่มขึ้น 91.56 จุด หรือ +0.46% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,483.94 จุด เพิ่มขึ้น 26.50 จุด หรือ +0.49% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,270.76 จุด เพิ่มขึ้น 8.23 จุด หรือ +0.36%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร เนื่องจากนักลงทุนยังคงคาดหวังว่า คณะทำงานของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ จะช่วยฟื้นฟูภาคธนาคารให้แข็งแกร่งขึ้น โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 1% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ปรับตัวขึ้น 1.7%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ BOJ มีมติคงนโยบายการเงิน ซึ่งรวมถึงการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ -0.1% และคงระดับฐานเงินรายปีอยู่ที่ 80 ล้านล้านเยน ผ่านโครงการรับซื้อสินทรัพย์ขนานใหญ่ ขณะเดียวกัน BOJ ได้ปรับเพิ่มมุมมองทางเศรษฐกิจโดยระบุว่า การส่งออกและการอุปโภคบริโภคในภาคเอกชนเริ่มส่งสัญญาณขยายตัว และเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงอยู่ในทิศทางการฟื้นตัวระดับปานกลาง
หุ้นไนกี้ พุ่งขึ้น 3.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสที่ดีเกินคาด
หุ้นแบล็คเบอร์รี ร่วงลง 2.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายเครื่องโทรศัพท์ร่วงลงสู่ระดับ 62 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 จากระดับ 220 ล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ย., จีดีพีในไตรมาส 3/2559 (ตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้าย), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์, การใช้จ่าย-รายได้ส่วนบุคคลเดือนพ.ย., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.โดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน และ ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ย.