ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนตัวลง ขณะที่นักลงทุนพิจารณาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยในวันนี้
ปริมาณการซื้อขายเป็นไปอย่างเบาบาง โดยนักลงทุนเริ่มปลีกตัวอยู่นอกตลาด ขณะเข้าใกล้ช่วงเทศกาลคริสต์มาส
ณ เวลา 21.37 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 19,912.95 จุด ลดลง 29.36 จุด หรือ 0.14%
หุ้นกลุ่มการเงินดิ่งลงนำตลาด ขณะที่หุ้นวอลท์ ดิสนีย์ร่วงลงมากที่สุดในการซื้อขายช่วงแรก
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ตัวเลขประมาณการขั้นสุดท้ายสำหรับการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 3 อยู่ที่ระดับ 3.5% โดยสูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ที่ระดับ 3.2% และสูงกว่าประมาณการครั้งที่ 1 ที่ระดับ 2.9% จากแรงหนุนของการส่งออก และการใช้จ่ายของผู้บริโภค
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า จีดีพีประจำไตรมาส 3 จะอยู่ที่ระดับ 3.3%
การขยายตัวที่ระดับ 3.5% ในไตรมาส 3 ถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี หรือนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2014 หลังจากเศรษฐกิจสหรัฐมีการเติบโต 1.4% ในไตรมาส 2 และ 0.8% ในไตรมาส 1
การส่งออกของสหรัฐเพิ่มขึ้น 10.0% ในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปี 2013
การใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.0% ในไตรมาส 3 เมื่อเทียบกับระดับ 4.3% ในไตรมาส 2
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 21,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 275,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 256,000 ราย หลังจากอยู่ที่ระดับ 254,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงอยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 94 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1970
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน และเป็นสิ่งบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ ดีดตัวขึ้น 0.9% ในเดือนพ.ย. หลังเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนต.ค.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ย.
ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐานได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในกลุ่มเครื่องจักร และโลหะพื้นฐาน