ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (22 ธ.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวน โดยในขณะที่ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) มีการขยายตัวได้ดีในไตรมาส 3 นั้น จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์กลับพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนชะลอการซื้อขาย ก่อนที่จะถึงวันหยุดในเทศกาลคริสต์มาส
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,918.88 จุด ลดลง 23.08 จุด หรือ -0.12% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,447.42 จุด ลดลง 24.01 จุด หรือ -0.44% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,260.96 จุด ลดลง 4.22 จุด หรือ -0.19%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบติดต่อกัน 2 วันทำการ ซึ่งปัจจัยล่าสุดมาจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวนของสหรัฐ โดยตัวเลขประมาณการขั้นสุดท้ายสำหรับจีดีพีไตรมาส 3 อยู่ที่ระดับ 3.5% สูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ที่ระดับ 3.2% และสูงกว่าประมาณการครั้งที่ 1 ที่ระดับ 2.9% จากแรงหนุนของการส่งออก และการใช้จ่ายของผู้บริโภค
ขณะที่ข้อมูลด้านแรงงานกลับอ่อนแอลง โดยจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 21,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 275,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 256,000 ราย
ส่วนการใช้จ่ายผู้บริโภคเดือนพ.ย.ของสหรัฐขยับขึ้นเพียง 0.2% ในเดือนพ.ย. น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% ขณะที่รายได้ส่วนบุคคลทรงตัวในเดือนพ.ย. ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 9 เดือนที่รายได้ไม่มีการปรับตัวขึ้น
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนชะลอการซื้อขาย ก่อนที่จะถึงวันหยุดในเทศกาลคริสต์มาส โดยตลาดหุ้นสหรัฐจะปิดทำการในวันจันทร์ที่ 26 ธ.ค.นี้
หุ้นกลุ่มค้าปลีกปรับตัวลง โดยหุ้นเบด บาธ แอนด์ บียอนด์ ดิ่งลง 9.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอเกินคาด ขณะที่หุ้นอาลีบาบาร่วงลง 2.7% หลังจากรัฐบาลสหรัฐระบุว่า อาลีบาบาอยู่ในรายชื่อของบริษัทที่จำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์
อย่างไรก็ตาม หุ้นเฮอร์ชี ผู้ผลิตช็อคโกแลตรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 1.2% หลังจากบริษัทประกาศแต่งตั้งนางมิเชล บัค เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่จะเปิดเผยในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.โดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน และยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ย.