ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (23 ธ.ค.) หลังจากที่เคลื่อนตัวผันผวนระหว่างแดนบวกและแดนลบ ขณะที่นักลงทุนปลีกตัวอยู่นอกตลาดเพื่อเตรียมต้อนรับเทศกาลคริสต์มาส
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,933.81 จุด เพิ่มขึ้น 14.93 จุด หรือ +0.07% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,462.69 จุด เพิ่มขึ้น 15.27 จุด หรือ 0.28% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,263.79 จุด เพิ่มขึ้น 2.83 จุด หรือ 0.13%
สำหรับทั้งสัปดาห์ ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 0.5% ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน ขณะที่ S&P 500 และ Nasdaq เพิ่มขึ้น 0.3%
ปริมาณการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กในวันศุกร์และตลอดสัปดาห์นั้นเบาบาง เนื่องจากนักลงทุนเตรียมตัวหยุดเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสในช่วงสุดสัปดาห์นี้ โดยตลาดหุ้นสหรัฐจะปิดทำการในวันจันทร์
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยในวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนพ.ย. โดยเพิ่มขึ้น 5.2% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 592,000 ยูนิต หลังจากอยู่ที่ระดับ 563,000 ยูนิตในเดือนต.ค.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดขายบ้านใหม่จะเพิ่มขึ้น สู่ระดับ 575,000 ยูนิตในเดือนพ.ย.
ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้นในเดือนพ.ย. เนื่องจากชาวสหรัฐแห่เข้าซื้อบ้าน จากความวิตกที่ว่าอัตราดอกเบี้ยจะดีดตัวขึ้นต่อไป หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ขณะที่เขามีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐครั้งใหญ่ โดยนับตั้งแต่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ อัตราดอกเบี้ยจำนองแบบคงที่ระยะเวลา 30 ปีได้พุ่งขึ้นมากกว่า 0.70% สู่ระดับ 4.30% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2557
ขณะเดียวกัน ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้นในเดือนธ.ค. แตะระดับ 98.2 โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 98.0 รวมทั้งสูงกว่าระดับ 93.8 ในเดือนพ.ย.
ดัชนีความเชื่อมั่นพุ่งขึ้นในเดือนธ.ค. แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2557 ได้รับปัจจัยบวกจากชัยชนะของนายโดนัลด์ ทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 8 พ.ย.
หุ้นกลุ่มบริการสุขภาพเป็นแกนนำหุ้นบวก ขณะที่หุ้นลบนำโดยหุ้นกลุ่มอุปโภคบริโภค