ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 ม.ค.) จากการที่นักลงทุนยังคงเข้าซื้อเก็งกำไร อันเนื่องมาจากความหวังเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้น หลังจากมีรายงานว่าดัชนีภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซนมีการขยายตัวได้ดีในเดือนธ.ค. อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นในกรอบจำกัด เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินยูโรได้สกัดแรงบวกของหุ้นกลุ่มส่งออก
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดขยับขึ้น 0.1% แตะที่ 365.64 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,900.64 จุด เพิ่มขึ้น 1.24 จุด หรือ +0.03% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,584.94 จุด เพิ่มขึ้น 0.63 จุด หรือ +0.01% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,195.31 จุด เพิ่มขึ้น 5.57 จุด หรือ +0.08%
นักลงทุนยังคงเข้าซื้อเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มต่างๆ โดยหุ้นเพอร์ซิมสัน ซึ่งเป็นบริษัทรับสร้างบ้านรายใหญ่ของอังกฤษ พุ่งขึ้น 7.2% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการตลอดปี 2559
ขณะที่หุ้นแอร์บัส ดีดตัวขึ้น 1.9% หลังจากมอร์แกน สแตนลีย์ ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นแอร์บัส
ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานของมาร์กิต อิโคโนมิคส์ซึ่งระบุว่า ดัชนีรวมภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซนในเดือนธ.ค.อยู่ที่ระดับ 54.4 ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจากระดับ 53.9 เมื่อเดือนพ.ย.
อย่างไรก็ตาม การแข็งค่าของเงินยูโรได้สกัดแรงบวกของหุ้นกลุ่มส่งออก ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายเนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนธ.ค.ในวันนี้ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวจะบ่งชี้แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปีนี้
ทั้งนี้ ผลการสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรจะเพิ่มขึ้น 172,500 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. และคาดว่า อัตราการว่างงานจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.7%