ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (6 ม.ค.) โดยเป็นการลดช่วงลบจากการซื้อขายในช่วงแรก หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานเดือนธ.ค.
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดลบ 0.05% แตะที่ 365.45 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,909.84 จุด เพิ่มขึ้น 9.20 จุด หรือ +0.19% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,599.01 จุด เพิ่มขึ้น 14.07 จุด หรือ +0.12% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,210.05 จุด เพิ่มขึ้น 14.74 จุด หรือ +0.20%
ตลอดสัปดาห์นี้ ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้นราว 1.1%
นักลงทุนมองในมุมบวกต่อการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานซึ่งแม้จะต่ำกว่าคาดในเดือนธ.ค. แต่การที่ตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงานได้พุ่งขึ้นหลังจากลดลงในเดือนพ.ย. ก็ได้แสดงถึงภาวะที่สดใสในตลาดแรงงาน
ทั้งนี้ ตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงานพุ่งขึ้น 10 เซนต์ สู่ระดับ 26 ดอลลาร์ โดยทะยานขึ้น 2.9% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่ปรับตัวลงในเดือนพ.ย.
ส่วนตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 156,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.7% หลังร่วงลงสู่ระดับ 4.6% ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 9 ปี
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 178,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. และอัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.7%
ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐมักจะมีอิทธิพลต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นยุโรป เนื่องจากเป็นตัวบ่งชี้อัตราดอกเบี้ยและการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในอนาคต
นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีมุมมองว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยนโยบายกระตุ้นการใช้จ่ายและลดภาษี ซึ่งถือเป็นหนึ่งในปัจจัยหนุนตลาดในระยะนี้
หุ้นซาโนฟี่ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตยาจากฝรั่งเศส ร่วงลง 2% หลังจากบริษัทเสียสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับยาลดคอเลสเตอรอล Praluent
หุ้นลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป พุ่งขึ้น 1.9% หลังจากบาร์เคลย์ ปรับเพิ่มความน่าเชื่อถือของ ลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป สู่ระดับ overweight จากระดับ equal weight
หุ้นสายการบินลุฟต์ฮันซาของเยอรมนี ร่วงลง 3.1% หลังจากยูบีเอสปรับลดความน่าเชื่อถือของหุ้นลุฟต์ฮันซา