ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดแดนลบในวันนี้ โดยดัชนีดาวโจนส์อ่อนตัวลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้เมื่อวันศุกร์ ขณะที่นักลงทุนรอการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการแถลงข่าวของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ในวันพุธนี้ ซึ่งอาจมีการเปิดเผยนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่
ณ เวลา 21.38 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 19,903.66 จุด ลดลง 57.55 จุด หรือ 0.28%
หุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงนำตลาด ขณะที่หุ้นโกลด์แมน แซคส์ร่วงลงมากที่สุดในวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ทรุดตัวลงเกือบ 2% หลุดระดับ 53 ดอลลาร์ในวันนี้ จากความกังวลที่ว่า การที่สหรัฐเพิ่มการขุดเจาะและผลิตน้ำมัน จะส่งผลกระทบต่อความพยายามของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันในการปรับลดกำลังการผลิต
ณ เวลา 20.51 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.พ. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 98 เซนต์ หรือ 1.82% สู่ระดับ 53.01 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังดิ่งลงแตะระดับ 52.85 ดอลลาร์ก่อนหน้านี้
นักวิเคราะห์จากธนาคารบาร์เคลย์สคาดการณ์ว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐ จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 850-875 แท่นในปลายปีนี้ ขณะที่การสำรวจและการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น 27% หลังราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นจากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มโอเปกบรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตในปีนี้
ทางด้านบริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐ รายงานเมื่อวันศุกร์ว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐในสัปดาห์ที่แล้ว มีจำนวนเพิ่มขึ้น 4 แท่น สู่ระดับ 529 แท่น ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 10 ติดต่อกัน
ราคาหุ้นแมคโดนัลด์อ่อนตัวลง 0.08% สู่ระดับ 120.66 ดอลลาร์ในวันนี้ หลังบริษัทประกาศขายหุ้น 80% ของธุรกิจฟาสต์ฟู้ดในจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกง ให้แก่กลุ่มบริษัทที่นำโดยซิติก กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทของรัฐบาลจีน ในข้อตกลงวงเงิน 2.1 พันล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ บริษัทซิติก กรุ๊ป และซิติก แคปิตัล จะถือหุ้น 52% ของธุรกิจในจีนและฮ่องกง ขณะที่คาร์ไลล์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทจากสหรัฐ จะถือหุ้น 28% ส่วนแมคโดนัลด์ถือหุ้น 20%
บริษัทแมคโดนัลด์จะได้รับเงินสดและหุ้นใหม่ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งจะมีการจัดตั้งบริษัทใหม่ขึ้นเพื่อดูแลธุรกิจแฟรนไชส์ในภูมิภาค โดยมีระยะเวลา 20 ปี