ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบในการซื้อขายภาคบ่ายวันนี้ จากปัจจัยความผันผวนของค่าเงิน โดยดอลลาร์สหรัฐร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ อันเนื่องมาจากการแสดงความเห็นของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งระบุว่าการแข็งค่าของดอลลาร์ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดวันนี้ที่ 18,894.37 จุด เพิ่มขึ้น 80.84 จุด, +0.43% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,070.54 จุด ลดลง 1.33 จุด, -0.06%
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวว่าสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบันนั้น "แข็งค่ามากเกินไป" ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า รัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐอาจยกเลิกนโยบายที่ทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่า และจะนำนโยบายที่ทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงมาใช้
"บริษัทต่างๆของประเทศเราไม่สามารถแข่งขันกับจีนได้ เนื่องจากสกุลเงินของเราแข็งค่ามากเกินไป และนั่นเป็นสิ่งที่กำลังทำร้ายพวกเรา" ทรัมป์กล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล
นอกจากนี้ การแถลงรายละเอียดสำหรับแผนการของอังกฤษในการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เมื่อวานนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเช่นกัน
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจฝั่งเอเชียที่ได้มีการเผยแพร่แล้วในวันนี้ ได้แก่ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า ราคาบ้านของจีนในเดือนธ.ค.ชะลอตัวลง โดยราคาบ้านใหม่ปรับตัวเพิ่มขึ้นใน 46 เมืองช่วงเดือนธ.ค. เทียบกับเดือนพ.ย.ที่ราคาบ้านใหม่ปรับตัวเพิ่มขึ้นใน 55 เมือง
สถิติดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงชะลอตัวลงในเดือนธ.ค. ภายหลังจากที่ทางการจีนได้ใช้มาตรการเพื่อควบคุมอสังหาริมทรัพย์