ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าร่วงลงในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะอ่อนตัวลงในคืนนี้ หลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศคงนโยบายการเงิน และคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการกล่าวถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยจะเปิดเผยแนวโน้มเศรษฐกิจ และการดำเนินนโยบายการเงินในวันนี้เวลา 20.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือพรุ่งนี้เช้าเวลา 08.00 น.ตามเวลาไทย
ณ เวลา 21.04 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าลบ 15 จุด หรือ 0.08% สู่ระดับ 19,720 จุด
ทั้งนี้ ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
ECB ยังได้คงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.4% ซึ่งหมายความว่าธนาคารพาณิชย์จะต้องจ่ายค่าฝากแก่ ECB หากมีการนำเงินส่วนเกินมาพักไว้ที่ ECB ซึ่งมาตรการดังกล่าวของ ECB มีขึ้นเพื่อสนับสนุนให้ธนาคารพาณิชย์นำเงินไปปล่อยกู้แก่ภาคธุรกิจ แทนที่จะนำมาพักไว้ที่ ECB
นอกจากนี้ ECB ยังได้คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%
ขณะเดียวกัน ECB ได้ประกาศคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ที่ระดับ 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน สำหรับเดือนม.ค.-มี.ค. ขณะที่เดือนเม.ย.-ธ.ค.จะอยู่ที่ระดับ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน
อย่างไรก็ดี ECB ระบุว่า อาจมีการปรับเพิ่มวงเงิน QE หรือขยายเวลาออกไปเกินกว่าเดือนธ.ค. 2017 หากแนวโน้มเศรษฐกิจย่ำแย่ลง
เมื่อวานนี้ นางเยลเลนระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในระดับที่เข้าใกล้เป้าหมายของเฟด ทั้งในเรื่องการจ้างงาน และตัวเลขเงินเฟ้อ
นอกจากนี้ นางเยลเลนยังกล่าวว่า เฟดคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยปีละหลายครั้งไปจนถึงปี 2019 เนื่องจากการรอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับที่เป็นกลางนานเกินไป จะสร้างความเสี่ยงที่จะเกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจ