ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (20 ม.ค.) หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 45 โดยในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ ปธน.คนใหม่ของสหรัฐได้ยืนยันจุดยืนอันแข็งกร้าวที่จะปกป้องผลประโยชน์ของสหรัฐ ย้ำชัด "อเมริกาต้องมาก่อน" การค้า ภาษี การต่างประเทศต้องเอื้อประโยชน์สหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 94.85 จุด หรือ 0.48% ปิดที่ 19,827.25 ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 7.62 จุด หรือ 0.34% ปิดที่ 2,271.31 จุด ดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น 15.25 จุด หรือ 0.28% ปิดที่ 5,555.33 จุด
สำหรับทั้งสัปดาห์ ดาวโจนส์และ NASDAQ ลดลง 0.3% ขณะที่ดัชนี S&P500 ลดลง 0.2% โดยเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกันที่ดาวโจนส์และ S&P ปรับตัวลดลง
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กวันศุกร์นั้น ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นหลังจากที่ปิดแดนลบมา 5 วันติดต่อกัน ภายหลังนายทรัมป์เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐอย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนส่วนหนึ่งมองว่า ถ้อยแถลงหลังพิธีสาบานตนของปธน.ทรัมป์ยังคงไม่ได้ให้รายละเอียดที่ชัดเจนมากนักในเรื่องแนวทางการดำเนินนโยบาย จึงอาจจะเป็นการเพิ่มความวิตกกังวลเกี่ยวกับนโยบายกีดกันการค้าของรัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของปธน.ทรัมป์ โดยดัชนีหุ้นสหรัฐลดช่วงบวกลงหลังการกล่าวสุนทรพจน์ดังกล่าว
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 45 กล่าวสุนทรพจน์หลังการสาบานตนรับตำแหน่ง ระบุ "อเมริกาต้องมาก่อน" อันเป็นการแสดงจุดยืนที่มีต่อนโยบายปกป้องผลประโยชน์ของสหรัฐ แต่นายทรัมป์ไม่ได้แจกแจงรายละเอียดถึงแนวทางการดำเนินงาน โดยไม่ได้แตะประเด็นที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจหรือการค้า
ปธน.ทรัมป์กล่าวว่าจะให้อำนาจกลับคืนสู่ประชาชน ขณะนำสหรัฐกลับสู่ความยิ่งใหญ่ "ในวันนี้ถือเป็นวันพิเศษ ไม่เพียงแต่เป็นการโอนอำนาจจากรัฐบาลชุดหนึ่งไปยังรัฐบาลอีกชุดหนึ่ง หรือจากพรรคหนึ่งไปยังอีกพรรคหนึ่ง แต่เป็นการโอนอำนาจจากกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.กลับไปสู่ประชาชนชาวสหรัฐ"
"ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อเมริกาต้องมาก่อน โดยการตัดสินใจด้านการค้า ภาษี ประเด็นคนเข้าเมือง และกิจการต่างประเทศ จะต้องเอื้อประโยชน์ต่อแรงงานชาวสหรัฐ และครอบครัวชาวอเมริกัน โดยรัฐบาลจะยุติการที่ประเทศอื่นทำการผลิตสินค้าสหรัฐ ขโมยบริษัทสหรัฐ และทำลายการจ้างงานในสหรัฐ"
เขากล่าวว่า การปกป้องดังกล่าวจะสร้างความมั่งคั่งและความแข็งแกร่งแก่สหรัฐ โดยรัฐบาลจะดึงงานและความมั่งคั่งกลับจากต่างประเทศ
นอกจากนี้ ปธน.คนใหม่ของสหรัฐยังได้ประกาศกระตุ้นเศรษฐกิจ การจ้างงานครั้งใหญ่ ด้วยการก่อสร้างสาธารณูปโภคทั่วสหรัฐ โดยรัฐบาลจะสร้างถนนใหม่ ทางหลวง สะพาน สนามบิน อุโมงค์ และทางรถไฟทั่วประเทศ
ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า รัฐบาลจะดำเนินการด้วยกฎง่ายๆเพียง 2 ข้อคือ ซื้อสินค้าอเมริกัน และจ้างชาวอเมริกัน
สำหรับข่าวคราวความเคลื่อนไหวภาคธุรกิจนั้น หุ้นพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล พุ่ง 3.25% หลังบริษัทรายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาด
หุ้นไอบีเอ็มพุ่ง 2.24% ขานรับรายงานผลประกอบการที่ออกมาดีกว่าการคาดการณ์ของตลาด
หุ้นเมอร์คพุ่ง 3.6% หลังคู่แข่งอย่าง บริสตอล-ไมเยอร์ส สควิบบ์ เผยว่าบริษัทจะไม่เร่งรัดการขออนุมัติยาสำหรับรักษาโรคมะเร็งปอดในสหรัฐ ขณะที่หุ้นบริสตอล-ไมเยอร์ส สควิบบ์ ร่วง 11.3%
หุ้นอเมริกัน เอ็กซ์เพรส ลบ 0.64% หลังผลกำไรออกมาต่ำกว่าคาด แม้รายได้สูงกว่าคาดการณ์ก็ตาม