ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 23.00 จุด หลังหุ้นเทสโก้พุ่งแรงรับข่าวซื้อกิจการ

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday January 28, 2017 05:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (27 ม.ค.) หลังหุ้นเทสโก้ทะยานขึ้นกว่า 9% รับข่าวบริษัทตกลงซื้อกลุ่มบริษัทค้าส่งอาหารอย่าง บุคเกอร์ กรุ๊ป ในวงเงิน 3.7 พันล้านปอนด์ เพื่อรุกธุรกิจจัดส่งอาหาร

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 23.00 จุด หรือ 0.32% ปิดที่ 7,184.49 จุด ขณะที่ทั้งสัปดาห์ ดัชนีลดลง 0.2%

หุ้นเทสโก้ และบุคเกอร์ต่างทะยานขึ้นในวันศุกร์ หลังจากที่มีรายงานว่า บริษัทเทสโก้ ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ที่สุดของอังกฤษ ประกาศทุ่มเงิน 3.7 พันล้านปอนด์ (4.64 พันล้านดอลลาร์) เพื่อซื้อกิจการของบริษัทบุคเกอร์ ซึ่งเป็นบริษัทค้าส่งอาหารรายใหญ่

การซื้อกิจการบุคเกอร์จะทำให้เทสโก้สามารถรุกธุรกิจจัดส่งอาหารเข้าไปยังร้านอาหารและร้านกาแฟในอังกฤษ ซึ่งมีอัตราการขยายตัวมากกว่าตลาดของผู้บริโภคที่ซื้ออาหารมารับประทานที่บ้าน โดยที่ผ่านมา บุคเกอร์ได้จัดส่งอาหารให้แก่ร้านค้าต่างๆจำนวน 450,000 แห่ง ซึ่งรวมถึงเครือข่ายบริษัทต่างๆ ได้แก่ วากามามาส และคาร์ลุคซิโอ

ทั้งนี้ ราคาหุ้นเทสโก้พุ่งขึ้น 9.60% ขณะที่หุ้นบุคเกอร์ทะยานขึ้น 16.7%

อย่างไรก็ตาม แม้หุ้นเทสโก้ปรับตัวสูงขึ้น แต่ภาวะการซื้อขายโดยรวมเป็นไปในทิศทางบวกไม่มากนัก โดยหุ้นบีทีทรงตัว หลังจากบริษัทสื่อสารรายใหญ่รายงานผลกำไรไตรมาสสามร่วงลงอย่างหนักถึง 37% ซึ่งการเปิดเผยผลประกอบการมีขึ้นหลังจากที่เพิ่งมีข่าวว่า บีที อิตาเลียได้ทำการตกแต่งตัวเลขบัญชี โดยได้แจ้งกำไรเกินจริงเป็นเวลาหลายปี

ขณะที่เงินปอนด์ซึ่งอ่อนค่าลง 0.4% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ แตะ 1.2541 ดอลลาร์ และร่วงลง 0.6% เทียบยูโร สู่ระดับ 1.1729 ยูโร ช่วยหนุนบรรยากาศการซื้อขายได้ส่วนหนึ่ง หลังจากการแข็งค่าของเงินปอนด์ก่อนหน้านี้ได้ฉุดให้ดัชนีฟุตซี่ร่วงลงในรอบสัปดาห์

ในส่วนของหุ้นตัวอื่นๆนั้น หุ้นเซเว่น เทรนต์ บวก 2.49% สเมอร์ทิฟ คัปปา กรุ๊ป บวก 2.38% แอดไมรัล กรุ๊ป บวก 2.04% และดีซีซี บวก 1.64%

หุ้นลบนำโดย อันโตฟากัสตา ร่วงลง 4.08% อีซี่เจ็ต ร่วง 3.37% เพียร์สัน ลดลง 2.41% เบอร์เบอร์รี กรุ๊ป ลดลง 1.02% และสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ลบ 0.91%

ขณะเดียวกัน นักลงทุนต่างรอดูการเจรจาการค้าในระหว่างการพบปะกันของนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ของอังกฤษ และประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ที่ทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตัน ดีซี ซึ่งเมย์ถือเป็นผู้นำจากต่างประเทศคนแรกที่ได้เดินทางเยือนสหรัฐและเข้าพบทรัมป์อย่างเป็นทางการ ภายหลังจากที่ทรัมป์เข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี

โดยนอกจากประเด็นการค้าแล้ว คาดว่าผู้นำทั้ง 2 ประเทศจะหารือกันถึงเรื่องความมั่นคงและความร่วมมือด้านข่าวกรอง ตลอดจนอนาคตขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) ด้วยเช่นกัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ