ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 6.03 จุด วิตกสัมพันธ์ทรัมป์-ผู้นำทั่วโลกร้าวฉาน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 3, 2017 06:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 ก.พ.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ และผู้นำคนอื่นๆของโลก ซึ่งรวมถึงการที่ประธานาธิบดีสหรัฐขู่ว่าจะส่งทหารเข้าไปปราบปรามอาชญากรในเม็กซิโก นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนม.ค.ในวันนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,884.91 จุด ลดลง 6.03 จุด หรือ -0.03% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,636.20 จุด ลดลง 6.45 จุด หรือ -0.11% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,280.85 จุด เพิ่มขึ้น 1.30 จุด หรือ +0.06%

บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่า ความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐและผู้นำของประเทศอื่นๆนั้น อาจทวีความรุนแรงขึ้น โดยล่าสุดสื่อต่างประเทศรายงานว่า ทรัมป์ได้ขู่ว่าจะส่งทหารสหรัฐเข้าไปในเม็กซิโก เพื่อจัดการผู้กระทำความผิดและอาชญากร หากกองทัพของเม็กซิโกไม่ดำเนินการปราบปรามคนเหล่านั้น

ขณะที่วอชิงตัน โพสต์ รายงานว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายมัลคอล์ม เทิร์นบูล นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย เกี่ยวกับข้อตกลงการรับผู้อพยพจากออสเตรเลียที่สหรัฐทำไว้ตั้งแต่สมัยอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา โดยการสนทนาครั้งนี้ทรัมป์ได้กล่าวกับนายเทิร์นบูลอย่างไม่เกรงใจว่า เขาได้พูดคุยกับผู้นำระดับโลกแบบรายวัน แต่การพูดคุยกับผู้นำออสเตรเลียถือเป็นการสนทนาทางโทรศัพท์ที่แย่ที่สุด และยังได้วางสายโทรศัพท์เพื่อยุติการสนทนากับนายเทิร์นบูลอย่างกะทันหัน หลังการพูดคุยกันเพียง 25 นาที ถึงแม้มีการกำหนดเวลาสนทนากัน 1 ชั่วโมงก็ตาม

ขณะเดียวกันรัฐบาลสหรัฐยังได้ออกแถลงการณ์เตือนอิหร่านเกี่ยวกับการทดสอบขีปนาวุธ พร้อมกับเตือนว่าสหรัฐอาจจะเปิดฉากการคว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ยังได้วิพากษ์วิจารณ์ญี่ปุ่นว่าจงใจทำให้เยนอ่อนค่าลงเพื่อกระตุ้นการส่งออกของประเทศ ส่งผลให้นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ปฏิเสธคำกล่าวหาดังกล่าว และระบุว่าเขาจะหารือในประเด็นดังกล่าวกับทรัมป์เมื่อเขาเดินทางเยือนสหรัฐในวันที่ 10 ก.พ.นี้

ความวิตกกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านการเมืองระหว่างสหรัฐและประเทศอื่นๆนั้น ได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐซึ่งระบุว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 14,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 246,000 ราย โดยต่ำกว่าระดับ 250,000 รายซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้

หุ้นเฟซบุ๊กร่วงลง 1.79% แม้ว่าบริษัทเปิดเผยกำไรสุทธิในไตรมาส 4 /2559 อยู่ที่ระดับ 3.56 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.21 ดอลลาร์/หุ้น ซึ่งสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้านี้ที่ระดับ 1.6 พันล้านดอลลาร์ หรือ 54 เซนต์/หุ้น

หุ้นราล์ฟ ลอเรน ดิ่งลง 12.32% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวังในไตรมาส 4/2559 พร้อมกับประกาศว่า ซีอีโอของบริษัทจะลาออกจากตำแหน่งหลังจากที่ทำงานได้ไม่ถึง 2 ปี

หุ้นดอยซ์แบงก์ร่วงลงกว่า 5% หลังจากธนาคารเปิดเผยยอดขาดทุนสุทธิในไตรมาส 4 อยู่ที่ระดับ 1.9 พันล้านยูโร (2.05 พันล้านดอลลาร์) เนื่องจากธนาคารต้องใช้จ่ายเงินจำนวนมากในการยุติคดีความทางกฎหมาย นอกจากนี้ ภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจยังส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของทางธนาคาร

ส่วนหุ้นมี้ด จอห์นสัน นิวทริชัน ทะยานขึ้น 21% หลังจากบริษัทเรกคิทท์ เบนคีเซอร์ ยืนยันว่าจะเข้าซื้อกิจการมี้ด จอห์นสัน

นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนม.ค.ของสหรัฐในวันนี้ เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ด้านนักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้นราว 165,000 - 170,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะเคลื่อนไหวที่ระดับต่ำกว่า 5%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ได้แก่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนม.ค.จากมาร์กิต, ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนธ.ค. และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนม.ค.จาก ISM


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ