ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ วิตกข่าว "ดอยซ์แบงก์" ขาดทุนหนัก

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 3, 2017 06:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 ก.พ.) หลังจากดอยซ์แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ของเยอรมนีเปิดเผยตัวเลขขาดทุนสุทธิในไตรมาส 4/2559 กว่า 2 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากธนาคารต้องสูญเสียเงินจำนวนไปกับการปิดคดีความทางกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นลอนดอนปิดตลาดในแดนบวก โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์ หลังจากธนาคารกลางอังกฤษมีมติคงอัตราดอกเบี้ยและคงวงเงินซื้อพันธบัตร ในการประชุมเมื่อวานนี้

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดลบ 0.3% ที่ระดับ 361.95 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,794.29 จุด ลดลง 0.29 จุด หรือ -0.01% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,627.95 จุด ลดลง 31.55 จุด หรือ -0.27% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,140.75 จุด เพิ่มขึ้น 33.10 จุด หรือ +0.47%

หุ้นดอยซ์แบงก์ร่วงลง 5.2% หลังจากธนาคารเปิดเผยตัวเลขขาดทุนสุทธิในไตรมาส 4 อยู่ที่ระดับ 1.9 พันล้านยูโร (2.05 พันล้านดอลลาร์) เนื่องจากธนาคารต้องใช้จ่ายเงินจำนวนมากในการยุติคดีความทางกฎหมาย นอกจากนี้ ภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจยังส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของทางธนาคาร

ทั้งนี้ ดอยซ์แบงก์ได้จ่ายเงินจำนวนมากเพื่อยุติคดีความกับทางการสหรัฐและอังกฤษ โดยล่าสุด ทางธนาคารต้องจ่ายเงิน 425 ล้านดอลลาร์ให้กับสำนักงานบริการการเงิน (DFS) ของรัฐนิวยอร์ก และจ่ายเงินให้กับสำนักงานกำกับสถาบันการเงินของอังกฤษ (FCA) จำนวน 163 ล้านปอนด์ (204 ล้านดอลลาร์)

นอกจากนี้ ดอยซ์แบงก์ยังได้จ่ายเงินค่าปรับ 3.1 พันล้านดอลลาร์ให้กับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ เพื่อยุติคดีที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) ซึ่งเป็นต้นเหตุของวิกฤตการเงินโลกในปี 2008

หุ้นเดมเลอร์ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของยุโรป ดิ่งลง 2.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรในไตรมาส 4/2559 เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2.15 พันล้านยูโร แต่ตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 2.26 พันล้านยูโร

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นลอนดอนปิดตลาดในแดนบวกสวนทางกับตลาดส่วนใหญ่ของยุโรป โดยได้แรงหนุนจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลง หลังจากธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติเป็นเอกฉันท์ 9-0 เสียงให้คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมทั้งประกาศคงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 4.35 แสนล้านปอนด์ และคงวงเงินซื้อหุ้นกู้ในภาคเอกชนที่ระดับ 1 หมื่นล้านปอนด์

หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ปรับตัวขึ้น 1.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรปี 2559 ลดลงสู่ระดับ 3.5 พันล้านดอลลาร์ จาก 3.8 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม กระแสเงินสดในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีทะยานขึ้นเกือบ 70% มาอยู่ที่ราว 9 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าจำนวนเงินปันผลที่บริษัทจะจ่าย พร้อมทั้งระบุด้วยว่า บริษัทสามารถชำระหนี้มูลค่า 4.5 พันล้านดอลลาร์

หุ้นเรกคิทท์ เบนคีเซอร์ พุ่งขึ้น 4.1 % หลังจากที่กลุ่มบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคยืนยันว่า บริษัทได้ยื่นข้อเสนอซื้อ มี้ด จอห์นสัน ผู้ผลิตนมผงสำหรับเด็ก เป็นเงินสดหุ้นละ 90 ดอลลาร์ คิดเป็นมูลค่ารวม 1.67 หมื่นล้านปอนด์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ