ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) และทำสถิติปิดเหนือ 20,000 จุดอีกครั้ง ในขณะที่ NASDAQ ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากตลาดขานรับตัวเลขจ้างงานสหรัฐเดือนม.ค.ที่แข็งแกร่งเกินคาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,071.46 จุด เพิ่มขึ้น 186.55 จุด หรือ +0.94% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,666.77 จุด เพิ่มขึ้น 30.57 จุด หรือ +0.54% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,297.42 จุด เพิ่มขึ้น 16.57 จุด หรือ +0.73%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 227,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.8%
โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. และอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.7%
ขณะที่ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) พบว่า ดัชนีภาคบริการของ ISM มีการขยายตัวที่ระดับ 56.5 ในเดือนม.ค. จากระดับ 56.6 ในเดือนธ.ค.
ภาคบริการของสหรัฐมีการขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 85 ในเดือนม.ค. เนื่องจากดัชนียังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะขยายตัว
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มการเงินยังปรับตัวขึ้น หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีเพื่อยกเครื่องกฎระเบียบทางการเงินของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงการมอบหมายให้รัฐมนตรีกระทรวงการคลังทบทวนกฏหมายดอดด์-แฟรงค์ (Dodd-Frank Wall Street Reform and Consumer Protection Act) ซึ่งเป็นกฏหมายที่รัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามา เคยใช้กู้วิกฤตการณ์ทางการเงินในอดีต
หุ้นกลุ่มการเงินพุ่งขึ้นนำตลาด โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ และมอร์แกน สแตนลีย์ ต่างพุ่งเกิน 4% ขณะที่หุ้นเจพี มอร์แกน เชส, แบงก์ ออฟ อเมริกา และหุ้นซิตี้กรุ๊ปปิดพุ่งกว่า 2%
หุ้นอเมซอนปรับตัวลง 3.54% ขณะที่หุ้นวีซ่าพุ่งขึ้น 4.59% หลังจากเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด
ตลอดสัปดาห์ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.1% ดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น 0.1% และ ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 0.1%