ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก ขานรับตัวเลขสร้างงานสหรัฐแกร่ง

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) โดยภาวะการซื้อขายได้รับปัจจัยหนุนจากตัวเลขจ้างงานสหรัฐเดือนม.ค.ที่แข็งแกร่งเกินคาด

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.6% ปิดที่ 364.07 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,825.42 จุด เพิ่มขึ้น 31.13 จุด หรือ +0.65% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,651.49 จุด เพิ่มขึ้น 23.54 จุด หรือ +0.20% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,188.30 จุด เพิ่มขึ้น 47.55 จุด หรือ +0.67%

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 227,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.8%

โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. และอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.7%

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากความคาดหวังว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐจะผ่อนคลายกฎระเบียบทางการเงิน โดยตลาดปิดไปก่อนที่จะมีรายงานว่า ปธน.ทรัมป์ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีเพื่อยกเครื่องกฎระเบียบทางการเงินของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงการมอบหมายให้รัฐมนตรีกระทรวงการคลังทบทวนกฏหมายดอดด์-แฟรงค์ (Dodd-Frank Wall Street Reform and Consumer Protection Act) ซึ่งเป็นกฏหมายที่รัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามา เคยใช้กู้วิกฤตการณ์ทางการเงินในอดีต

ทางด้านมาร์กิต อิโคโนมิคส์ ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีรวมภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซนในเดือนม.ค. อยู่ที่ 54.4 ทรงตัวจากระดับเดือนธ.ค. และปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากตัวเลขเบื้องต้นที่ 54.3 โดยดัชนีที่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคธุรกิจยูโรโซนอยู่ในภาวะขยายตัว

หุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวขึ้นนำตลาด โดยหุ้นดอยซ์แบงก์พุ่ง 3.6% หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ (RBS) พุ่งขึ้น 2.7% หุ้นบีเอ็นพี พารีบาส์ เพิ่มขึ้น 1.5% และหุ้นเครดิต สวิส เพิ่มขึ้น 1.8%

ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวลง โดยหุ้นเกลนคอร์ร่วงลง 4.8% หุ้นโบลิเดนลดลง 1.7% และหุ้นอาร์เซเลอร์ มิททัลลดลง 2.3%

ตลอดสัปดาห์นี้ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.6%