ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) โดยภาวะการซื้อขายได้รับปัจจัยหนุนจากตัวเลขจ้างงานสหรัฐที่แข็งแกร่ง
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 7,188.30 จุด เพิ่มขึ้น 47.55 จุด หรือ +0.67%
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 227,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.8%
โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. และอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.7%
นอกจากนี้ยังมีกระแสคาดการณ์ในตลาดว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐจะผ่อนคลายกฎระเบียบทางการเงิน โดยตลาดปิดไปก่อนที่จะมีรายงานว่า ปธน.ทรัมป์ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีเพื่อยกเครื่องกฎระเบียบทางการเงินของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงการมอบหมายให้รัฐมนตรีกระทรวงการคลังทบทวนกฏหมายดอดด์-แฟรงค์ (Dodd-Frank Wall Street Reform and Consumer Protection Act) ซึ่งเป็นกฏหมายที่รัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามา เคยใช้กู้วิกฤตการณ์ทางการเงินในอดีต
หุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวขึ้น โดยหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ (RBS) พุ่งขึ้น 2.7% และหุ้นบาร์เคลย์พุ่ง 3.39%
ส่วนหุ้นเหมืองแร่ปรับตัวลงจากความวิตกกังวลต่อมาตรการคุมเข้มทางการเงินของจีน โดยหุ้นเกลนคอร์ร่วงลง 4.8% หุ้นริโอทินโตลดลง 3.54% และหุ้นแองโกลอเมริกัน ลดลง 3.30%